วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระเครื่ององค์แรกที่ได้ลงกล้อง...พระสมเด็จวัดระฆัง somdej wat rakang

พระเครื่ององค์แรกที่ได้ลงกล้อง...พระสมเด็จวัดระฆัง somdej wat rakang

พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ มูลค่า 5ล้านบาท



พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่

พระสมเด็จองค์นี้เป็นพระเครื่ององค์แรกที่ได้ส่องแต่ก่อนเป็นของพ่อครับ พ่อเอาองค์นี้มาสอน พระสมเด็จองค์นี้ไม่เคยถูกนำมาบูชาเลย สภาพเป็นอย่างงี้ตั้งแต่พอได้รับมา สภาพแบบนี้พ่อบอกว่าค่อนข้างสมบูรณ์แล้วถ้าได้ใช้อีกหลายๆปีผิวจะชุ่มฉ่ำกว่านี้ สีสรรจะจัดจ้าน ซึ่งแลกกลับมากับพระที่ช้ำและสึกแต่ทำให้ได้เสน่ห์ไปอีกทางนึง พ่อบอกว่าพระสมเด็จแต่ละองค์จะมีความคล้ายกัน และความไม่คล้ายกัน แต่ให้เรียนจากที่ส่วนใหญ่คล้ายกันก่อน แล้วศึกษาธรรมชาติให้เป็น แล้วเอาไปต่อยอดหาพระเอาเอง แต่เริ่มแรกพ่อบอกให้เอาไปนั่งส่องก่อนให้เอาพระวางบนผ้านุ่มๆหนาๆระวังทำแตก แล้วก็สอนวิธีหยิบพระวางบนฝ่ามือให้ถูกต้อง เออ..พ่อยังบอกอีกว่า ให้หาแว่นส่องพระดีๆ ขนาดซัก10x-16x ถ้าได้ที่เค้าไว้ส่องเพชรยิ่งดี ตาจะได้ไม่เสีย แล้วก็ส่องได้นาน ดูนุ่มนวลตามากกว่า กล้องอันแรกผมเก็บเงินซื้อเองยี่ห้อ BelOMO ขนาด10x ครับ ซื้อมือสองจากคลองถมอันละ 200 บาทมั้งถ้าจำไม่ผิด เอาละกลับมาคุยที่ค้างไว้ต่อ ก่อนที่ผมจะส่องผมว่าพระองค์นี้สีเหมือนต้มยำน้ำข้นที่แอบใส่นมนิดๆนะ ไม่ค่อยเหมือนพระผงแบบที่เห็นทั่วไป เมื่อได้รรดกล้องมองไปที่พระองค์นี้ ครั้งแรกที่ผมได้ส่องพระ ผมเหมือนได้เห็นภูมิประเทศของอาณาจักนึง มีทั้งรอยแตกยุกยิก มีบางอย่างเกาะผิวเป็นหย่อมๆขาวๆ มีบางอย่างปุดซึมขึ้นมา พอค่อยๆพลิกส่องเอียงๆให้โดนแสง บางจุดส่องประกายเป็นจุด บางมุมมีแท่งเทา บางจุดเป็นก้อนเล็กสีม่วงคล้ายสีเผือก บางจุดเป็นเทาขุ่น บางจุดมีสีทองประกาย บางจุดมีสีเงินประกาย มีแผ่นส้มๆเล็กๆ มีจุดสีดำ เหล่านี้พ่อว่าเป็นมวรสารที่ไว้โรยที่ผสมตอนกดพิมพ์พระขึ้นมา โดยหลักการผู้ทำมักต้องการที่จะกะในจำนวนที่เท่าๆกัน แต่ความเป็นจริง อาจมีหนักมือ เบามือกันไปบ้าง อาจจะมีมวรสารครบ อาจขาดบ้าง แล้วแต่จริงๆครับ เดี๋ยววันหน้าจะหาเทคนิคมาถ่ายเจาะลึกแบบมาโครให้ได้เห็นกัน ในส่วนต่างๆผมชอบส่องที่สุดก็คงจะเป็นส่วนวงแขนตรงช่วงท้องกับหน้าอกครับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรส่องแล้วสบายตาจัง ผมว่าเส้นสายการจัดวางนี่ละมั้งที่เค้าว่า เป็นงานระดับมาสเตอร์พีซ ของคนที่เป็นระดับช่างหลวง เอ...ว่าแต่ช่างหลวงมีหลายคนนะครับ ช่างหลวงที่ตำราหลายเล่มต่างยกย่องถึงเรื่องการทำแม่พิมพ์ให้กับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ต่อจากนี้ไปผมขอเอ่ย พระนามท่านอย่างย่อว่าสมเด็จโตนะครับ ช่างหลวงผู้นั้นคือ หลวงวิจารณ์เจียรนัย ว่ากันว่าเพราะความศรัทธา ท่านจึงแกะแม่พิมพ์จากหินอ่อนไปถวาย อันนี้ผมก็ไม่รู้ซินะครับ คือเกิดไม่ทัน ทุกอย่างเป็นตำนานเล่าต่อกันมา ส่วนจำนวนแม่พิมพ์ ที่คุณหลวงทำถวาย บ้างก็ว่ามี2อัน  หนึ่งพิมพ์ใหญ่ และหนึ่งพิมพ์เกศบัวตูม แต่ก็ว่ากันอีกว่าไม่ใช่ น่าจะมี4แบบ โดยมีเพิ่มมา2 นั่นคือพิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์ฐานแซม และไม่แน่ใจว่าอีกพิมพ์นึงพิมพ์ที่5 นั่นคือพิมพ์ปรกโพธิ์ นั้นจะได้รับการยอมรับหรือไม่ ถ้าในระดับผู้สะสมนอกวงการทั่วไปล้วนยอมรับว่าใช่ แต่คนในวงการระดับสูง(ตอนนั้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว) ยังคลุมเครือ แล้วปัญหาอีกอย่างคือ ถ้าเช่นนั้น พิจารณาแค่พิมพ์ใหญ่อย่างเดียว ที่เป็นพระระดับหลักล้าน ที่ล้วนบอกว่าต่างก็เป็นพิมพ์หลวงวิจารย์ทั้งสิ้น แล้วพยายามบอกว่าพิมพ์เดียวกัน ในบางอค์เหมือนกันจริงๆผมเอามาเทียบแบบฟิมล์ใสดูเลยครับ ทั้งซุ้ม ทั้งองค์พระวางอยู่ในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ และขนาดเส้นสายเท่ากันด้วย แต่บางองค์นั้นผมเอามาเทียบแล้วไม่ใช่เลย ซึ่งถ้าเอาพระสมเด็จในวงการกลุ่มราคานิยมหลักล้านมาพิจารณา ผมได้ออกมาประมาณ10กว่าแบบ นี่เฉพาะพิมพ์ใหญ่นะครับ ที่ใกล้เคียงทั้งธรรมชาติและเนื้อหา แต่....น่าแปลกใจคือ นับวันมีพระหลายๆองค์ที่หายสาปสูญไปจากหน้าสารบบหนังสือพระ จะเห็นแต่มีพระสมเด็จหน้าดาราองค์เดิมๆ จนทำให้นักสะสมหน้าใหม่ๆเข้าในว่า พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ มีแค่4ไม่เกิน6แบบ แค่4แบบวงการระดับนั้นยังไม่อยากรับเลยผมขอพูดตรงๆ เพราะไม่มีส่วนได้เสีย เดี่ยวเรื่องนี้ขอพักไว้ก่อนเดี๋ยววันหน้าค่อยมาว่ากันต่อนะ เพราะรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก และยังไม่รวมแม่พิมพ์อันอื่นๆอีกที่เค้าว่ากันว่ามีกันหลายร้อยแม่พิมพ์เลยทีเดียว ที่ได้ความรู้ว่าก็เพราะเริ่มจากการส่องพระองค์นี้แหละครับ  บางคนอาจจะพลาดพลั้งทำของดีหลุดมือไปก็เพราะแบบนี้แหละครับ อยากฝากไว้เรื่องนะครับ เราสะสมพระก็จริงอยู่ว่าบางทีก็ต้องออกตัวปล่อยของบ้าง แต่ก็อย่าให้เงินมันทำให้เกิดกิเลสความโลภจนบังตา แล้วสักวันพออายุเริ่มมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น ก็จะเข้าใจครับว่าพระเครื่องให้อะไรเรามากกว่านั้น แล้วอย่าลืมติดตามกันตอนต่อไปนะครับ เดี๋ยวเอาพระสมเด็จมาค่อยให้ชมทีละองค์นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น