1.มันมีแรงผลักดันให้เก็บสะสม เพราะของแต่ละชิ้นจะบอกเล่าอดีตที่ผ่านมาด้วยตัวของมันเอง เช่น เคยมั้ย ได้ยินเพลงนี้แล้วหวลให้เราคิดว่า ตอนนั้นเราเคยทำอะไรอยู่ แล้วมีความสุข ความทุกข์เพียงใด
2.เพราะเคยสัมผัส จึงทำให้ง่ายต่อการสังเกตุ และมีขอบเขต หรือการต่อยอดขององค์ความรู้ด้วยตัวเองได้ อย่างการสะสมพระเครื่องเป็นต้น
สิ่งที่ผมเคยเก็บสะสมมาสิ่งแรกในชีวิตนั่นคือ สะสมเหรียญบาทใส่กระปุกครับ >__< เฮ้ย!!ไม่ใช่ อันนั้นไม่นับครับ เอาจริงๆเลยนะ คงจะสะสมหนังยางครับ หนังยางที่เป็นวงๆสมัยนั้นไม่ได้หาง่ายหรือราคาถูก ทิ้งขว้าง อย่างทุกวันนี้นะครับ หนังยางนี่มีหลายสีเลยแต่ยอดฮิต ต้องสีแดงครับ มีวงเล็กวงใหญ่ นานๆจะได้แบบอย่างหนามาที สมัยก่อนก็ได้ยางพวกนี้แหละครับเอามาเป็นของเล่นกัน อย่างพวกเป่ากบ เวลาเป่าเทคนิคคือต้องต้องอมลมไว้เต็มปากแล้วต้องเป่าออกเสียง เบอะๆ แล้วที่สำคัญต้องรักษาระดับของเหลวไว้ในปากไว้ให้ดีไม่งั้นเวลา 'เบอะ' ทีกระจายแน่นอนครับ เด็กสมัยก่อนกินจุกจิกไม่ค่อยแปรงฟันด้วย สมัยนั้นยังไม่ค่อยรังเกียจครับเพราะผมเองก็กลมกลืนกับเพื่อนๆแบบนั้น พอมานั่งคิดตอนโต เออ...นี่กูทนไปได้ยังไง
หนังยาง |
แล้วหลังจากสะสมยาง ก็สะสมพวกตุ๊กตุ่นทอยเส้นครับ ไอ้สิ่งนี้เพื่อก่อนดึงได้ตามแผงร้านขายของชำครับ ทั้งแบบทหารตัวเล็กๆ ไซด์ใหญ่ๆยังไม่ทำออกมานะครับ แต่ถ้าใครไปซื้อจากฮ่องกงนี่จะมี ผมเคยได้มาจากการทอยกินตุ๊กตุ่นเพื่อนมา ตอนแรกๆสะสมตุ๊กตุ่นแบบพลาสติก มีพวกฮีโร่ หรือตัวละครจากหนังจักรๆวงค์ๆทั้งหลาย พวกขวานฟ้าหน้าดำ พวกไอ้หนุ่มซินตึ้ง ก็ว่ากันไป โดยส่วนใหญ่ ด้านหลังจะมีตัวนูน ANT ซะส่วนใหญ่ ตอนนั้นพอได้มาเอามากองใส่ถุงพลาสติกไว้ก่อน แล้วเอามาเรียงๆ คงประมาณว่าจับเชลยได้ ต้องเอามาแห่ประจาน พอเพื่อนๆแถวบ้านมาเห็นก็อยากได้ เอาของเล่นมาแลกบ้าง เอาวีดีโอการ์ตูนมาให้ดูบ้าง ผมก็แบ่งๆกันไปครับ ก็คือแลกเปลี่ยนกันจากแถวบ้านไปโรงเรียน แล้วเอาของโรงเรียนมาแลกที่บ้านครับ เจ้า
ตุ๊กตุ่นทหารจิ๋ว |
ตุ๊กตุ่นฮีโร่ พลาสติก |
ตุ๊กตุ่นยางแถมขนม กาก้า หรือ คัมคัม ไม่แน่ใจ |
ตุ๊กตุ่นนี่สะสมตลอดมา จนเริ่มมีแบบยางอย่างดีเข้ามา ดูแล้วเสริมบารมีมาก นั่นคือ ตุ๊กตุ่นของแถมจากกาก้าคัมคัม ซื้อขนม2บาท ข้างในจะมีแถมมา1ตัว ถ้าลูบคลำถุงดีดี อาจจะได้2ตัวครับ ตุ๊กตุ่นพวกนี้เค้าว่าก๊อปมาจากที่ขายต่างประเทศ เริ่มๆมาก็ดราก้อนบอล เค็นชิโร่หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ อสูรน้อยคีทาโร่ โดเรม่อน ปาแมน แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มมีของเล่นกูลิโกะเข้ามาบ้าง เพราะพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันชอบกิน แล้วจะให้ของเล่นทุกครั้ง ผมว่าสีสีนมันสวยนะแล้วไม่มีกลิ่นเหม็นน้ำมันเหมือนพลาสติกที่ผมมี แล้วก็เริ่มสะสมสมุดรูปลอกสติ๊กเกอร์ไล่มา ค่อยๆกลายพันธุ์มาเป็นสะสมแสตมป์ คราวนี้แหละที่เป็นครั้งแรกที่ต้องสัญจรไปไกลจากที่เคย ผมไปหมดเลยตั้งแต่ไปรษณีย์กลาง ไปเข้าแถวซื้อตอนที่แสตมป์ออกใหม่ๆ พอมาคิดดูเอ๊ะเพื่อนมี เรามี มีเหมือนกันเลยมันก็ไม่เจ๋งดิ (ตอนนั้นไม่ค่อยสนใจพ่อเท่าไหร่ เหมือนอยู่คนละโลกกับพ่อ หารู้มั้ยละว่าพ่อผมคือนักล่าของผู้ยิ่งใหญ่เลยเชียว) ผมเห็นของเพื่อนๆแม่งมีแต่แสตมป์ลายสวยๆของต่างประเทศ คุณภาพดีกว่าของเรามาก ขอแลกกับเพื่อนบางคนก็ให้บางคนก็ไม่ให้ และพอมาวันนึง พ่อก็โยนสมุดสะสมแสตมป์ให้2ปึ๊ก เล่มนึงเป็นของอาหยี่แปะ(อารอง) ข้างในมีแสตมป์ที่เจ๋งๆทั้งนั้น ส่วนอีกเล่มนึงพ่อบอกซื้อมาจากคลองถม พอดีไปเช่าพระเห็นว่าข้างในมีแสตมป์ต่างประเทศแปลกเลยซื้อมาให้ นั่นทำให้ผมรู้จักคลองถมเป็นครั้งแรก และไล่ๆไปหลังกระทรวง คลองหลอด และที่ต่างๆที่นักล่าของสะสมต้องเคยไปกัน
บรรยากาศตลาดคลองถมเปิดให้ขาจรช่วงเย็นๆ |
จากนั้นเส้นทางการสะสมของผมก็เริ่มสนุกขึ้น พอมารู้ตัวอีกทีก็มาสะสมพระเครื่องซะแล้ว ผมว่านะ..ในจำนวนของสะสมพระเครื่องนี่แหละสนุกสุดๆ ทั้งได้ฟังเรื่องราวต่างๆทั้งอิทธิปาติหารย์ ก็ยังได้ความรู้หลายๆอย่างที่เกียวพันกันอีกด้วย อย่างวิธีการปั๊มพระโลหะ การหล่อ การปั้นดิน ปั้นผง การรับรู้สืบค้นรับฟังข้อมูลเพื่อเอามาประกอบการตัดสินใจ การตกควาย การโดนตอกฝาโลง ทุกอย่างผมเคยโดนมาหมดหละครับ ผมก็เลยคิดว่าน่าจะมีข้อมูลทางด้านนี้พอใช้ได้ระดับนึง เอาไว้คุยๆกับเพื่อนๆได้อย่างสนุกสนานกันเลยทีเดียว ถือว่าเป้นการเล่าสู่กันฟัง สำหรับนักสะสมหน้าใหม่ๆนอกวงการ หรืออ่านแล้วรู้สึกขำๆตลกดีก็ได้ครับ ยังไงก็อย่าลืมติดตามที่บล็อกนี้นะครับ จะทยอยมาอัพเรื่อยๆ วันนี้ขอลากันเพียงเท่านี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น