วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระปิดตาผลงคลุกรักหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์

พระปิดตาผลงคลุกรักหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์




เอามาให้ชมอีกซักรูปครับองค์นี้เป้นพระใช้มาครับ ทองลอกหลายจุดนี่ขนาดยังไม่แห้งดีนะครับ ต้องรอกาลเวลาให้ช่วยทำให้กลับมางดงามอีกที คราวหน้าจะเอาองคืที่สวยกว่านี้แบบแห้งๆมาให้ดู วันนี้เอาแบบมันๆฉ่ำๆไปก่อนนะครับ ข้างหลังเป็นหลังแบบครับเกือบลืมบอกไป




รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน amulet

รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน amulet

รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน amulet
รูปหล่อหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน amulet




รูปหล่อโบราณอีกองค์นึงที่นำมาให้ชมในวันนี้ เป็นรูปหล่อหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน พิมพ์นิยมครับ เคยเห็นแบบลงรักปิดทองด้วยทำให้พระสวยดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบนึง รูปหล่อพิมพ์นิยมนี้ หล่อที่บ้านช่างหล่อ ธนบุรี ในสมัยนั้น


  ประวัติการสร้างพระเครื่องและรูปเหมือนของหลวงพ่อเงิน (รูปหล่อ หลวงพ่อเงิน)

         ท่านพระครูพิทักษ์ศีลคุณได้เล่าให้ฟังว่า ท่านได้สร้างเป็นรูปหล่อลอยองค์ขึ้นเป็นรุ่นแรกครั้งที่ 1 เนื้อทองเหลืองรูปองค์พระจะขรุขระผิวไม่เรียบร้อย ตามภาษาชาวบ้านเรียกว่าพิมพ์ขี้ตา คณะกรรมการวัดได้ให้เช่าบูชาองค์ละ 1 บาท

 รูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตา

 ครั้งที่ 2 สร้างเป็นรูปหล่อลอยองค์ หลวงพ่อเงิน โดยให้ช่างแก้พิมพ์ให้สวยงามขึ้น จึงเรียกว่าพิมพ์นิยมหรือพิมพ์เบ้าทุบ

 รูปหล่อหลวงพ่อเงิน พิมพ์นิยมหรือพิมพ์เบ้าทุบ

          เมื่อรูปหล่อ หลวงพ่อเงิน พิมพ์ขี้ตาและรูปหล่อ หลวงพ่อเงิน พิมพ์นิยม ได้จำหน่ายจ่ายแจกให้ผู้ที่เคารพนับถือเลื่อมใสต่อหลวงพ่อ ต่างก็ได้รับความนิยมชมชอบ สำหรับผู้ชายสำหรับผู้หญิงและเด็กๆ ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้รูปหล่อทั้งสองพิมพ์ดังกล่าวมาแล้ว ทางคณะกรรมการวัดจึงได้จัดให้สร้างขึ้นเป็นครั้งที่ 3เป็นเหรียญหล่อไข่ปลาเรียกว่าจอบใหญ่กับเหรียญหล่อจอบเล็ก เพื่อให้ผู้หญิงและเด็กๆ ได้มีโอกาสเช่าบูชาให้ติดตัวไปได้ ปรากฏว่าเหรียญไข่ปลาและเหรียญจอบเล็กจำหน่ายดีมีความนิยมสูงมากกว่ารูปลอยองค์ เพราะเหรียญสองชนิดนี้มีห่วงอยู่ในตัวเมื่อเช่ารับจากหลวงพ่อมาแล้วก็คล้องคอได้เลย ปัจจุปัน เหรียญหล่อจอบเล็ก หลวงพ่อเงิน และ เหรียญหล่อจอบใหญ่  หลวงพ่อเงิน มีราคาเล่นหาสูงมาก

 การสร้างพระรูปหล่อของหลวงพ่อเงิน

         จะเป็นพิมพ์ใดก็ตาม ช่างมิได้สร้างครั้งเดียวและปีเดียว เมื่อปีนี้สร้างมาแล้วหมดไปเมื่อถึงงานแระจำปีปิดทองไหว้พระในเดือน 11 ของทุกๆ ปี หลวงพ่อท่านได้จัดให้มีงานแข่งเรืออย่างสนุกสนาน ได้มีประชาชนทั่วทุกอำเภอและจังหวัดใกล้เคียงได้พากันมาเที่ยวงานที่วัดวังตะโกเป็นจำนวนมาก ท่านก็ได้ให้ช่างหล่อรูปพิมพ์ต่างๆ ขึ้นมาตามลำดับเรียกร้องของประชาชนและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาต่อองค์หลวงพ่อเงิน

 การสร้างรูปหล่อหลวงพ่อเงินเป็นกรณีพิเศษ

          ยังมีข้าราชการ พ่อค้าประชาชนที่เคารพนับถือหลวงพ่อเงินมาขออนุญาตท่านหล่อรูปเหมือนโดยนำช่างไปทำการหล่อขึ้นที่วัดวังตะโก และหล่อไปจากกรุงเทพฯ ก็มีแล้วนำไปมอบให้หลวงพ่อเงินท่านได้แพเมตตาปลุกเสกให้ มีทั้งเนื้อ ทองคำ,เงิน ,สำริด,ทองเหลือง ,ทองแดงและตะกั่ว เป็นต้น แล้วแต่ฐานะของแต่และบุคคล ส่วนมากจะเป็นพวกชาวเรือเวลานำข้าว ขึ้น-ล่อง ไปขายที่กรุงเทพฯ

         ก็จะพากันมาจอดเรือที่หน้าวัดเป็นประจำ แล้วขออนุญาตจากหลวงพ่อนำเบ้าและพิมพ์พระไปให้ช่างที่กรุงเทพฯ ทำการหล่อแล้วนำกลับมาให้หลวงพ่อได้ปลุกเสกให้ จะสร้างมากน้อยเท่าไรไม่สามารถจะทราบจำนานได้

 การหล่อรูปจำลองของหลวงพ่อเงิน

          เมื่อหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ประชาชนเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ จึงได้ให้ช่างมาทำการหล่อรูปจำลองของท่านไว้จำนวน 2 องค์ ด้วยกัน ตามหลักฐานที่ได้ปรากฏอยู่จนทุกวันนี้

 องค์ที่ 1 ประจำอยู่วัดวังตะโก บ้านบางคลานหรือวัดหิรัญญาราม

องค์ที่ 2 ประจำอยู่ที่วัดท้ายน้ำ

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีดใหญ่ Luang Pu Thuat amulet

หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีดใหญ่ Luang Pu Thuat amulet

หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีดใหญ่ Luang Pu Thuat amulet
หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พิมพ์หลังเตารีดใหญ่ Luang Pu Thuat amulet


ช่วงนี้ขอนำเสนอพระหลวงปู่ทวดมั่งครับ เป็นพระหล่อโบราณที่สวยงามมากทีเดียว เป็นการออกแบบที่ลงตัวมากครับ ไม่ว่าจะเข้ากรอบแบบไหน แขวนคอเดี่ยวๆก็สวยงาม แต่หนักนิดนึงนะ พระองค์นี้สภาพเดิมๆเปียกทองมา แห้ง มัน ซึ้งตา ถ้าใส่ตลับทองฝังเพชรน่าจะเป็นที่เกรียวกราว อันพระหล่อขึ้นช่อนี่ พระแต่ละองค์จะมีการผิดเพี้ยนต่างกันบ้าง บางองค์ก้มีการตะไบแต่งมาเล็กน้อย ถ้าเก็บเองเอาธรรมชาติความเก่าเป็นหลัก ถ้าเอาไว้ขายต่อแนะนำไปเช่าที่ศูนย์ใหญระดับประเทศครับจะไม่ผิดหวัง ในชีวิตเห็นแค่พะรสมเด็จเผ่ากับพระยาสุเรนทร์เท่านั้นที่ไม่ค่อยขยับ แล้วก็พระผงวัดปากน้ำกับพระจตุคาม ที่มีราคาลง นอกนั้นวิ่งขึ้นตลอดครับ อย่างเราๆท่านๆสะสมด้วยใจอย่างมีความสุขก็อีกส่วนเรื่องหนึ่ง





พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่9 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่8 somdej wat rakang amulet


พระสมเด็จวัดระฆัง somdej wat rakang amulet



สวัสดีครับวันนี้เอารูปพระสมเด็จมาให้ชมอีกแล้วครับ เป็นพิมพ์ใหญ่อกกระบอกผิวฟูครับ เนื้อพระสมเด็จวัดระฆังมีหลายโซนครับ เพราะเนื้อหามีรายละเอียดต่างกันมากน้อยกันไป อย่างองค์นี้ไม่ค่อยได้แตะได้ใช้ได้สัมผัสก็ออกสว่างขาวจัดสวยอย่างที่เห็นครับ นักผจญภัยอย่างพวกเราจะมีความสุขใดเล่าถ้าได้ค้นหาตามพระที่เราชอบจนเจอ ที่เอารูปพระมาให้ลงได้เยอะก็มาจากของตัวเองและเพื่อนๆที่อยากเอามาโชว์เพื่อให้นักสะสมได้มีโอกาสได้ชมพระหน้าใหม่ๆกันบ้าง ส่วนเรื่องจะแท้หรือไม่นั้น ต้องใช้ความรู้ เหตุผลและวิจารณญาณของแต่ละคนตัดสินครับ ไม่มีใครเกิดมาในโลกนี้แล้วไม่เคยซื้อของไร้สาระครับ อยู่ที่ไร้สาระของใครอาจจะมีสาระกับอีกหลายคนก็ได้...ในชีวิตคนเรานั้นหากสามารถที่จะหากินแล้วยืนหยัดบนเส้นทางชีวิตได้ในระดับนึง ก็ย่อมที่จะขวนขวายแสดงหาสิ่งที่ตนเองชอบซักเรื่องนั้น มันคงไม่ผิดอะไรใช่มั้ยครับ? ฉะนั้น จัดไปเหอะครับ ชอบอะไร อยากได้อะไร ก็ไปแสวงหากันมาครับ โลกนี้หากคิดว่าทุกวินาทีล้วนเต้มไปด้วยการผจญภัย มันก็จะทำให้ชีวิตน่าตื่นเต้น และมีความสุขยิ่งๆขึ้นไปอีก

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่8 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่7 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง

somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet




สวัสดีครับ เช้านี้ได้เอารูปพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ มาให้ชมกัน พิมพ์นี้แกะได้ใหญ่ล่ำเป็นพิเศษมาก เสียดายว่าหักครับ คนโบราณเค้าจะไม่เก็บพระหักครับ มักเอาไปฝากที่วัดหรือใต้ต้นโพธิ์ ต้นไทรกัน เค้าว่าพระองค์ที่หักเพราะช่วยรับเคราะห์แทนคนที่บูชาครับ แต่สำหรับนักสะสมอย่างพวกเราไม่แคร์ครับ หักก็หักเพราะเราชอบพุทธศิลป์ กับชอบส่องดูเนื้อหา ธรรมชาติเป็นหลัก อันว่าธรรมชาติมี 108-1009 มีเหมือน มีใกล้เคียง และมีไม่เหมือน สมัยก่อน พายุทอร์นาโดจะได้เห็นกันทีกว่าช่วงอายุคนถึงจะได้เห็น แต่หลังๆนี่มาทุกปี และบางทีมาซ้อน2ลูก ฉะนั้น ถ้าไม่เคยมีไม่เคยเห็นอย่าพึ่งด่วนสรุปครับ เช่นกันกับพระเครื่อง อย่าลืมว่าโบราณคดี เป็นการสมมุติจากหลักฐานอ้างอิงเพียงขั้นนึง ทุกๆวันนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ว่าบันทึกนั้นผิด บันทึกนั้นไม่ถูกต้อง ก็ว่ากันไป แต่ที่แน่ๆต้องหาหลักฐานใหม่ที่มีน้ำหนักมากพอที่จะสามารถแก้สมมุติฐานอันเก่านั้นได้ 


พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่7 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่7 somdej wat rakang amulet


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ปกโพธิ์
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ปกโพธิ์

somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet


 วันนี้ก่อนจบวันนี้ขอนำรูป สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ปกโพธิ์ ให้ชมครับ เชิญชมได้ตามสะดวกครับ ความเห็นส่วนตัว พิมพ์ปกโพธิ์เป็นพิมพ์ที่อลังการงานสร้างมากที่สุด สวยงามที่สุด ผมเองเคยเห็นพิมพ์เกศบัวตูมปกโพธิ์ด้วยครับ สวยมากๆ แต่ยังไม่เคยเห้นพิมพ์ใหญ่ปกโพธิ์นะ ฐานแซมยังเคยพบ เจดีย์ก็ยังเคยเห็น ผมเกรงว่าอาจจะมีพิมพ์ใหญ่ปกโพธิ์แต่อาจจะหายากมาๆก็เป็นได้นะครับ


พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่6 somdej wat rakang amulet ราคาประมิน 7 ล้าน

พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่6 somdej wat rakang amulet ราคาประมิน 7 ล้าน

พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง





somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet



วันนี้ต่อเนื่องกันซักหน่อย กับพระสมเด็จวัดระฆังอีกซักองค์ เป็นพระสมเด็จเนื้อกระแจะจันทร์ครับ เนื้อหาแบบนี้สมัยก่อนชอบกันนักหนา ปัจจุบันคงไม่ค่อยมันคนรู้จักแล้วครับผม ใครโชคดีอย่าลืมเช่าไว้นะครับ แต่ผมว่าคงไม่มีแล้วในสมัยนี้ ใครหลงหุหลงตาซวยครับ ใครได้ไปแสดงว่าพระได้เลือกให้เป็นเจ้าของครับ อย่างที่บอกไว้ในกระทู้เก่าๆแรกๆ

พระผงวัดพลับ พิมพ์เล็ก (ไข่จิ้งจก) WAT PLUB AMULET

พระผงวัดพลับ พิมพ์เล็ก (ไข่จิ้งจก) WAT PLUB AMULET

พระผงวัดพลับ พิมพ์เล็ก
พระผงวัดพลับ พิมพ์เล็ก





WAT PLUB AMULET
WAT PLUB AMULET





พระวัดพลับเป็นพระเนื้อผงที่เก่าแก่ของกทม. และเชื่อกันว่าสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ได้สร้างไว้เมื่อคราวที่ยังจำพรรษาอยู่ที่ วัดพลับ หรือวัดราชสิทธารามในปัจจุบัน

พระวัดพลับ นั้นมีทั้งพระที่บรรจุกรุ และที่ไม่ได้บรรจุกรุอีกจำนวนหนึ่ง การพบครั้งแรกเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ. 2485 ได้มีการปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ขณะรื้อกำแพงก็ได้มีผู้พบพระเครื่องเหล่านี้ ตามแนวกำแพง ประตู พัทธสีมา และเจดีย์รายต่างๆ ปรากฏว่าเป็นพระเนื้อผง และพบพระเนื้อชินตะกั่วบ้างเล็กน้อย พระวัดพลับที่พบมีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์เช่น พระวัดพลับยืน พระวัดพลับพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์พุงป่องใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์สมาธิใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์สมาธิกลาง พระวัดพลับพิมพ์เข่ากว้างใหญ่ พระวัดพลับพิมพ์เข่ากว้างเล็ก พระวัดพลับพิมพ์พุงป่องเล็ก พระวัดพลับพิมพ์ตุ๊กตาเล็ก พระวัดพลับปิดตาพิมพ์ใหญ่ พระวัดพลับปิดตาพิมพ์เล็ก พระสมเด็จวัดพลับ พิมพ์วันทาเสมา พระสมเด็จวัดพลับพิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ และยังพบเป็นพิมพ์สองหน้าอีกด้วย

พระวัดพลับประเภทเนื้อผงเป็นพระที่พบเป็นส่วนใหญ่ และมีเนื้อหาคล้ายคลึงกับพระสมเด็จ วัดระฆังฯ มาก พระที่พบในครั้งนี้ทางวัดได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเช่าบูชาองค์ละ 2 บาท เพื่อนำเงินมาปฏิสังขรณ์พระอุโบสถดังกล่าว ทางวัดเปิดให้เช่าอยู่ 2-3 ปี ตอนตักบาตรเทโว จนพระเหลือน้อยแล้ว ทางวัดจึงได้นำพระไปบรรจุเข้าไว้ในเจดีย์ตามเดิม และได้ถูกลักเจาะในปีพ.ศ. 2494 พระที่ออกมาภายหลังนี้จะเป็นพิมพ์ตุ๊กตาเล็กเสียเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาได้มีการพบพระวัดพลับอีกที่จังหวัดอุทัยธานี ที่วัดโค่ง ปัจจุบันชื่อวัดธรรมโสภิส ตามประวัติกล่าวไว้ว่า หลวงตาจัน เป็นผู้นำพระมาบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ ในพระอุโบสถและในพระเจดีย์ และได้มีการพบพระวัดพลับที่วัดแห่งนี้ถึงสองครั้ง พระที่พบมีทั้งพระเนื้อผงและพระเนื้อตะกั่วเช่นเดียวกับที่พบที่วัดพลับ แต่พระเนื้อตะกั่วพบจำนวนน้อยมาก

 คุยกันซักนิดเสริมอีกหน่อยกับพระองค์นี้ครับ จากที่เคยได้ยินมาแถวบ้าน ตรงนั้นสมัยก่อนมีกระรอกชุมครับ ตอนที่กรุแตกเค้าเข้าใจว่าเป็นกระดูกของใครเพราะสีของพระคล้ายกระดูกคนมีแบบมันวาว บ้างก็ขาวตุ่นๆ บ้างก็มีกรุจับ เป็นหย่อมๆอยู่ที่ระดับความสูงของพระที่ค้นพบ

องค์นี้นะครับคาดว่าจะเป็นพระที่อยู่ตรงบนๆและผ่านการใช้และสัมผัสมาระดับนึง ตอนได้มามีกรอบติดมาด้วย เอาเป็นว่าเนื้อขาววาวปานกระดูกนี่มีโอกาสสูงครับ เป็นพระที่อยู่ที่สูงและเป็นพระแจกซะส่วนมาก







วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จบางขุนพรหม องค์ที่3 somdej bangkhunprom amulet

พระสมเด็จบางขุนพรหม องค์ที่3 somdej bangkhunprom amulet

พระสมเด็จบางขุนพรหม
พระสมเด็จบางขุนพรหม





somdej bangkhunprom amulet
somdej bangkhunprom amulet





วันนี้เอาพระลงเพิ่มอีกซักองค์ครับ เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์เล็กครับ จะมีขนาดเล็กกว่าทั่วไปประมาณ70% ของสมเด็จปกติทั่วไป เอ...เห็นเค้าว่าคนเล่นพระเครื่องชอบเข้าของว่าพระตัวเองเป็นของแท้นะ ผมว่าจริงเลยข้อนี้  เค้าว่าตาใครตามันครับ คงประมาณเซ้นส์ติดตัวบางอย่าง คล้ายพวกแมวมองที่จับคนธรรมดา ให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ได้ การสะสมต้องหาคนที่พูดกันถูกคอครับ อย่าเที่ยวไปบังคับใครให้มาชอบแบบที่ตนเองมี มันจะไปได้ประโยชน์อะไรครับ เสียเวลา เสียความรู้สึกกันไป สมัยนี้มีเงินต้องคุ้มครองพระครับ ใครว่าเก๊จับใส่ตลับทองฝังเพชรไปครับ เดี๋ยวก็ต้องมีคนหาว่าแท้ อิอิ ไม่เชื่อลองดู

พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่5 somdej wat rakang amulet ราคาประมิน 5 ล้าน

พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ที่5 somdej wat rakang amulet


พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง





somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet







สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เอาพระสมเด็จเนื้อสวยๆ ส่องแล้วเพลิดเพลินใจ อร่อยตามาให้ชมอีกแล้วครับ พระสมเด็จพิมพ์นี้ไม่น่าจะเป็นแม่พิมพ์ของหลวงวิจารย์ครับ น่าจะเป้นของ นายจอน วงศ์ช่างหล่อ เป็นผู้แกะพิมพ์ครับ มีความเป้นเอกลักษณ์ของตัวเองทางศิลปะไม่เหมือนใคร ออกแนวโปร่งสบาย ดูแล้วใจสงบ ไม่แลดูแน่นทึบอย่างช่างคนอื่นๆบางคน

พระสมเด็จบางขุนพรหม องค์ที่2 somdej bangkhunprom amulet

พระสมเด็จบางขุนพรหม องค์ที่2 somdej bangkhunprom amulet

พระสมเด็จบางขุนพรหม somdej bangkhunprom amulet

วันนี้ขอนำเสนอพระเครื่องเพิ่มอีกซักองค์ครับ เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุเก่าเนื้อสีขวาอมเขียวก้านมะลิครับ พิมพ์ทรงจะแลดูมีมาตรฐานขึ้น พระพักต์ พระอุระ วงพระกร ซุ้ม เป็นฝีมือหลวงวิจารย์แน่นอน แต่การตัดไม่ค่อยเรียบร้อยครับดูรีบๆเร่งสร้างเพื่อให้ทันบรรจุกรุ และเผื่อเหลือเผื่อขาดในการแจกญาติโยมที่มาร่วมช่วย และที่ชำรุด

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่4 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่4 somdej wat rakang amulet

somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่



สวัสดีครับ วันนี้นำพระมาโชว์อีกองค์นึงนะครับ เป็นพระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ซุ้มเส้นลวดเนื้อมันส์สะใจหนุ่มน้อยทั้งหลายวัย 60up ครับ ผมว่าพระสมเด็จเนื้อหาแบบนี้มีเสน่ห์นะแม้ว่าวงการไม่ยอมรับ แต่อย่างว่าความชอบก็คือความชอบส่วนตัว สุดท้ายเราเองเป็นผู้ตัดสินครับ เหมือนนางสาวไทยไง ถึงจะเป็นเวทีมาตรฐานสากลระดับประเทศ แต่ผมคิดว่าสาวๆแถวบ้านผมอีกหลายคนสวยกว่า แล้วทุกท่านละครับคิดเห็นด้วยกับผมมั้ย หลักแนวคิดเดียวกัน หากเอาสาวที่สวยกว่าแถวบ้านผมไปช่วยโฆษณา กับเอานางสาวไทยไปช่วยโฆษณาแบบไหนถึงเห็นผลกว่ากัน ไม่ต้องแปลกใจ ไม่ต้องกลัวครับถ้าเราชอบ เช่าเก็บสะสมด้วยใจรักอันนี้เราได้แน่นอนครับ ที่เราเป้นทุกข์ในการสะสม รู้สึกไม่พอใจที่มีคนติพระเรา ก็เพราะเราไปอ้างอิงทางมูลค่ามากเกินไป เห้นเป็นทุกข์ทุกราย อย่าลืมคำ มันจะเจ็บใจกว่าถ้า "เวลาอยู่ที่มือเรากลายเป็นของเก๊ พอไปอยู่มือคนอื่นกลายเป็นพระแท้" สิ่งนี้น่าเจ็บใจที่สุดแล้วครับ สำหรับคนในวงการนี้ ครับ

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่3 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่3 somdej wat rakang amulet


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ somdej wat rakang amulet





พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ somdej wat rakang amulet




zoom ดูผิวพระ เนื้อพระ พระสมเด็จวัดระฆัง
zoom ดูผิวพระ เนื้อพระ พระสมเด็จวัดระฆัง







สวัสดีครับ รอบนี้ขอเชิญพระสมเด็จวัดระฆังให้ชมกันอีกครั้ง องค์นี้เป็นองค์ที่3 ครับ จากแม่พิมพ์มีความใกล้เคียงกับพระสมเด็จรุ่น100ปีมาก ซึ่งพระสมเด็จรุ่น100ปีเป็นแม่พิมพืที่แกะใหม่เลียนแบบพิมพ์นี้ครับ เนื้อพระนั่นเก่าแห้ง ตังอิ้วซึมขึ้นเคลือบปกคลุมผิวพระพร้อมฝ้าขาวนวลๆ ด้านหลังนี่แห้ง นุ่มละมุล ได้ใจจริงๆครับ ถ้าอย่างนี้ไม่เก่า ใครมีแบบนี้เอามาปล่อยผมได้นะรับซื้อในราคาของปลอมครับ จัดมาเลย

รอบนี้ผมมาแบบพัฒนาฝีมือขึ้นอีกก้าวครับ มีการซูมให้เห็นผิวพระที่ชัดขึ้นมาอีกระดับนึง ลองชมดูกันขำ สนุกๆอย่าไปซีเรียส

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ กำแพงเพชร soomkor amulet

พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ กำแพงเพชร soomkor amulet

พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ กำแพงเพชร soomkor amulet
พระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ กำแพงเพชร soomkor amulet



เป็นพระเครื่องเนื้อดินเผา ที่เลื่องชื่อลือชาของจังหวัดกำแพงเพชร ที่มีคำนิยมของคนโบราณที่ว่า "มีกูแล้วไม่จน" สุดยอดทางโชคลาภ เมตตามหานิยม ใครมีไว้แล้วจะร่ำรวย เป็นมหาเศรษฐี เจริญรุ่งเรือง ในชีวิตโดยถูกเลือกให้อยู่ในชุดเบญจภาคี สุดยอดทั้ง5ของผู้นิยมอนุรักษ์พระเครื่องล้วนปรารถนา 

จากพระราชนิพนธ์ประพาสต้นกำแพงเพชรของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบันทึกไว้ว่า นายชิด มหาดเล็กหลานพระยาประธานนคโรทัยจางวางเมืองอุทัยธานีเดิมได้รับราชการในกระทรวงมหาดไทยเป็นตำแหน่งนายอำเภอ อยู่ในมณฑลนครชัยศรี ป่วยลาออกมารักษาตัว อยู่บ้านภรรยาที่เมืองกำแพงเพชร ไปได้ตำนานพระพิมพ์มาให้ ว่ามีกษัตริย์องค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระยาศรีธรรมมาโศกราช จะบำรุงพระพุทธศาสนาจึงไปเชิญพระธาตุมาแต่ลังกา สร้างเจดีย์ บรรจุไว้แควน้ำปิงและน้ำยมเป็นจำนวนพระเจดีย์ 84,000 องค์ พระฤาษีจึงได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นถวายพระยาศรีธรรมาโศกราชเป็นอุปการะ จึงได้บรรจุพระธาตุและพระพิมพ์ไว้ ในพระเจดีย์แต่นั้นมา เหตุที่จะพบพระพิมพ์กำแพงเพชรขึ้นนี้ว่า เมื่อปีระกาเอกศก จุลศักราช 1211 สมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง ขึ้นมาเยี่ยมญาติที่เมืองกำแพงเพชร ได้อ่านศิลาจารึกไทยโบราณมีอยู่ที่วัดเสด็จได้ความว่า มีพระเจดีย์โบราณบรรจุพระบรมาตุอยู่ริมน้ำปิง ฝั่งตะวันตกตรงข้ามเมือง จึงได้ค้นคว้ากันขึ้น พบพระเจดีย์สามองค์นี้ ชำรุดทั้งสามองค์ เมื่อพญาตะก่า(พญาตะก่า เป็นกะเหรี่ยงพ่อค้าไม้ อยู่เมืองกาแพงเพชรมีใจศรัทธาขอบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุ เมืองนครชุม เมื่อ พ.ศ. 2414 ต้นแผ่นดิน ร.5)  ขอสร้างรวมเป็นองค์เดียว รื้อพระเจดีย์ลงจึงได้พบพระพิมพ์กับได้ลานเงินจารึกอักษรขอม เป็นตำนานสร้างพระพิมพ์ และวิธีบูชา นายชิดได้คัดตำนานและวิธีบูชามาให้ด้วย

                                                                                                      เมืองกำแพงเพชร
                                                                                    วันที่ 25 สิงหาคม รัตนโกสินทร์ศก 125


พระเครื่องลักษณะที่มีพุทธศิลป์คล้ายกันนี้มีการค้นพบหลายกรุ ทั้งที่จังหวัดกำแพงเพชรเอง หรือที่จังหวัดอื่นๆ จังสันนิษฐานกันว่ามีการสร้างกันขึ้นมาหลายยุคในวาระต่างๆกัน แม้แต่ในสมัยเราหรือยุครัตนโกสินทร์เอง ก็มีการทำขึ้นมาไม่ต่ำกว่าหมื่นครั้ง ทั้งๆที่แจ้งประกาศในสื่อต่างๆ และที่ไม่มีการแจ้งก็อีกมากมาย แต่ที่เรากำลังศึกษากันอยู่ก็ขอให้พบเจอพระซุ้มกอที่สร้างปี พ.ศ.ลึกๆซะหน่อย เพราะยุคก่อนๆมีการสร้างอย่างพิถีพิถันมีพิธีเข้มขลัง และด้วยความบริสุทธิ์ ปราศจากความคิดถึงเรื่องราคาเป็นหลัก และทางด้านเชิงพุทธศิลป์นั้นเล่า... ก้ยิ่งงามหยดย้อยจับตา เห็นแล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก


ข่าวดีของผมตอนนี้คือ ผมเริ่มใช้กล้องถ่ายรูปตัวใหม่คุ้นแล้ว คิดว่ากว่าจะถ่ายภาพพระครบทั้งหมด ฝีมือผมต้องพัฒนาขึ้นไปไกลกว่านี้แน่นอน นี่คือผลพลอยได้จากการสะสมพระเครื่องครับผม


เออ..แถมให้อย่างนึงสำหรับมือใหม่นะ ถ้าเป็นพระซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ ให้ดูในซอกแขนจากพระซุ้มกอหลายๆรูปเป็นหลัก แล้วจับข้อแตกต่างนั้นออกมาให้ได้ จะมีโอกาสเช่าพระแท้ในราคาถูกได้สูงเลยทีเดียว


คนที่กินปลาที่มีราคาแพงมากๆ แต่ไม่ต้องไปซื้อมานั่นคือ คนตลกแดก..หรือกินฟรี เฮ้ย!!! ไม่ใช่ครับ นี่มุกเฉยๆ ผมจะบอกว่าคำตอบที่ถูกคือ คนหาปลาเองครับ ซื้อแพงขึ้นมาหน่อยก็พวกพ่อค้าไล่ขึ้นมา แล้วก็มาที่พ่อครัว ส่วนคนที่ต้องซื้อปลาชิ้นนั้นแพงที่สุดก็คือคนทานครับ มันเป้นอะไรที่ถูกต้องที่สุดครับ อยากได้ต้องจับต้องหาเอง ยิ่งหวังพึ่งคนอื่นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องบวกราคาขึ้นไป และปลาที่แพงก็อาจไม่ใช่ปลาที่อร่อยที่สุดเสมอไปและถูกปากทุกคน วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ แล้วพบกันมั้ย บ๊ายบาย...

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า เนื้อหาวัดระฆัง ลงรักเดิม เนื้อตุ๊บตุั๊บ somdej bangkhunprom

พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า somdej bangkhunprom


พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า
พระสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่า



พระองค์นี้ผ่านการใช้มาสมบุกสมบัน อย่างมากมาย เดิมพระองค์นี้น่าจะชุบรักตั้งแต่ที่พระกดเสร็จใหม่ๆ เนื้อพระกับน้ำรักจึงเกือบเป้นเนื้อเดียวกัน พอใช้มานานเข้ารักหลุดพร้อมกับผิวเนื้อด้านบนบางส่วน ทำให้ผิวพระไม่ค่อยแกร่ง แล้วก็ใช้มาตลอดจนเหงื่อซึมเข้าพระทุกวันและช่วยขัดเกลาผิว จึงทำให้พระออกสีคล้ายฟัน ไม่ขาวมากออกเหลืองนิดๆ แต่แลดูสว่างไม่หมองหม่น ใครได้ส่องจะได้รู้ว่ามันส์จริงๆ

พระสมเด็จบางขุนพรหมนี้ เท่าที่ทราบมีการพบเจอหลายกรุ จากหลายสถานที่ ทั้งที่เป็นสถานที่เกี่ยวกับสมเด็จใจทางตรง และทางอ้อม ยังไม่รวมถึง ที่เกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาร่วมสร้างครั้งบรรจุเพื่อสืบทอดศาสนา ที่มีทำเกินจาก84000องค์ตามที่สันนิษฐาน และยังมีที่เอาพระที่ชำรุดไป เพื่อขอนำไปไว้ในสถานที่ที่ตนเคารพเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ อีกไม่รู้เท่าไหร่อีกเป็นจำนวนมาก

พระสมเด็จวัดระฆัง ทรงโบราณ somdej wat rakang

พระสมเด็จวัดระฆัง ทรงโบราณ  somdej wat rakang

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์โบราณ
พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์โบราณ




ที่เค้าว่าทรงโบราณ ก็เห็นจะเรียกติดปากกันมาสำหรับพระสมเด็จที่พิมพ์ไม่ใช่สากล และต้องมีเอกลักษณ์ทางพิมพ์ทรงชัดเจน จากรูปพระสมเด็จองค์ที่เอามาให้ลงชมกันนี้นั้น จะเห็นได้ว่า มีเอกลักษณ์และศิลปะชัดเจนแบบฉบับตามที่ผู้รังสรรค์ออกแบบต้องการแม่พิมพ์นี้ยังเป็นแบบแม่พิมพ์เก่า พิมพ์พระแล้วเคาะออกมาตัดข้างนอกเองตามเส้นกรอบตะหาก ส่วนผสมพระโซนนี้เป็นน้ำอ้อย กล้วย น้ำว่าน เป็นตัวประสานเนื้อ เพราะสะดวกกว่าทำน้ำมันตังอิ๊วมาก สมัยก่อนต้องรอนำเข้า ตอนต้นกรุงยังมีการค้าขายสำเภากับประเทศจีนจึงยังมีอยู่มาก

น้ำมันตังอิ๊ว น้ำมันตุง น้ำมันทังออย
น้ำมันตังอิ๊ว น้ำมันตุง น้ำมันทังออย



ผลต้นน้ำมันตุง มะเยาหิน มะเยาเหลี่ยม ทังออย
ผลต้นน้ำมันตุง มะเยาหิน มะเยาเหลี่ยม ทังออย





(น้ำมันตังอิ๊ว  มีเรียกกันหลายชื่อ เช่น ทังออย มะเยาเหลี่ยม มะเยาหิน ต้นน้ำมันตุง หรือ TUNG OIL TREE มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “VERNICIA MONTANA, ALEURITES MONTANA” เป็นพืชน้ำมันชนิดหนึ่ง ที่เนื้อในเมล็ดมีปริมาณน้ำมันสูงใช้ในการผลิตไบโอดีเซล (BIODIESEL) ได้ เป็นพืชโตเร็วสามารถให้ผลผลิตภายใน 3 - 4 ปี มีอายุยืน 100 ปีขึ้นไป ต้นน้ำมันตุงมีถิ่นกำเนิดที่ประเทศจีน จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า CHINA WOOD OIL TREE มีประวัติการปลูกกว่า 1,000 ปี ตั้งแต่ รัชสมัยราชวงศ์ถัง      (TANG DYNASTY) “TUNG” เป็นคำที่มาจากภาษาจีน หมายถึง “หัวใจ” (HEART) ซึ่งมาจาก ลักษณะที่คล้ายรูปหัวใจของใบต้นน้ำมันตุง)


กลับมาดูลักษณะทางกายภาพของพระองค์นี้ครับ เส้นซุ้มอวบใหญ่ ช่องว่างระยะภายในสมส่วนดีมาก พระเมาลีเป็นตุ้มชัดเจน ส่วนพระเกศชัดเจนพริ้วเล็กน้อยแลให้รู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ สอดรับกับพระเมาลีเป็นอย่างมาก พระพักต์กลมมนได้สัดส่วน พระกรรณทั้ง2ข้างเป็นลักษณะบายศรี ดูคล้ายปลากำลังกระโดดขึ้นสู่ผิวน้ำ ตรงส่วนพระอุระ ทำให้เห็นชัดเจนว่ามีการห่มจีวรเห็นความนูนของมิติชัดเจน ส่วนวงพระกรนั้นเล่า..ทำให้แลดูเหมือนว่ากำลังทำมือผสานเพื่อทำสมาธิจริง จังหวะการยกไหล่ทอดแขนแลดูสบายไม่แข็ง
ส่วนของพระชงค์กับพระบาท รับได้รูปกับเส้นสายต่างๆเป็นเอกลักษณ์แบบเสมือน รู้ว่าเป็นส่วนใหญ่แต่ทำออกมาได้ชดช้อยกว่าความเป็นจริง ส่วนตั่ง ฐานหมอน ฐานสิงห์ งดงามคล้องจองสอดประสานได้สัดส่วน

วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จเกศไชโย องค์ที่1 ราคาประเมินค่ามิได้ somdej ked chaiyo

พระสมเด็จเกศไชโย somdej ked chaiyo

พระสมเด็จเกศไชโย อ่างทอง
พระสมเด็จเกศไชโย อ่างทอง


มีการสันนิษฐานกันมาช้านานว่าผู้สร้างคือสมเด็จโต มีการหาหลักฐานอ้างอิงกันมามากมาย ไปในทางเดียวกันนั้นทั้งสิ้น โดยในส่วนเนื้อหามีทั้งหยาบและละเอียดเนื้อใกล้เคียงกับวัดระฆังแต่บางองค์ก็คล้ายบางขุนพรหม ไม่แน่นอน แต่ถ้าเนื้อขาวออกแนวสีกระดูกจะเป็นอะไรที่ชัวว์กว่าสำหรับพระเกศไชโย ซึ่งผมแน่ใจว่าแม่พิมพ์ตัวนี้เป็นฝีมือแกะจากช่างในวังหลวง และคงต้องมีการทดลองแม่พิมพ์และมีการจ่ายแจกเป็นจำนวนหนึ่งในไม่มากที่พระนคร ในสมัยนั้น ทำให้เนื้อหาพระบางองค์คล้ายทางฝั่งวัดระฆัง อย่างเช่นองค์นี้ครับ เดี๋ยวคราวหน้าจะเอาพระเกศไชโยที่คาดว่าเป็นของวัดไชโยมาให้ดู  องค์นี้สวยงามมากตังอิ้วซึม แป้งโรยพิมพ์เคลือบคลุมผิว ยิ่งทำให้พระน่าดูน่าส่องมากขึ้น เรื่องตังอิ้วที่เอาเข้ามาผสมนั้น ผมวิเคราะห์ได้ว่าไม่ใช่เริ่มมีใช้ตอนหลวงวิจารย์แนะนำหรอกครับ แต่เค้าใช้กันมานานแล้ว โดยเฉพาะพระสมเด็จยุคแรกๆก็มีใช้เหมือนกัน เดี๋ยวมีเวลาจะเล่าให้ฟังครับเรื่องมันยาว เดี่ยวพอศึกษาไปหาข้อมูลกันไปความจริงก็จะปรากฎ

สมัยก่อนใครหาพระสมเด็จวัดระฆังไม่ได้ พระสมเด็จบางขุนพรหมไม่ได้ก็ต้องพระสมเด็จเกศไชโยนี่แหละครับ โดยส่วนมากพุทธคุณทางพระสมเด็จจะออกแนว ให้ผู้อื่นเมตตาเรา ให้ทำมาค้าขายในอาชีพที่สุจริตดี แล้วเมื่อถึงคราวเดือดร้อนจะเหมือนมีเรื่องต่างๆเข้ามาช่วยให้คลี่คายนะครับ ในจุดๆนี้เชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง

วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่2 ราคาประเมินมิได้ somdej wat rakang

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่2 ราคาประเมินมิได้ somdej wat rakang


พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่





โอ้โห!!! หยิบองค์ที่2จากที่เก็บก็องค์นี้เลยแหะ องค์นี้เป็นพระเก่าเก็บสภาพเดิมไม่เคยใช้แต่มีจับต้องสัมผัสมา จะสังเกตุว่าท่านผู้กดพิมพ์ตั้งใจกฎพระสุดฤทธิ์ เอาให้ชัดๆ คมทุกซอกทุกสัดส่วนกันไปเลย เป็นแม่พิมพ์ที่สวยงาม ดูยิ่งใหญ่ แต่แฝงความเรียบง่าย สงบ แลดูมีอำนาจแฝง เนื้อหาน่าส่องมากมาย


มีคนเคยถามว่าพระแท้นี่ศักดิ์สิทธิ์ถึงขนาดยิงแทงไม่เข้าเหรอ ก็ขออกตัวก่อนว่าอยู่ที่สถานการณ์เฉพาะคน ไม่ได้เกิดกับทุกคนนะครับ หลักๆมันมีกรรมเป็นตัวกำหนดครับ เคยเห็นเจ้าพ่อโดนยิงตายคารถโดยมีพระสมเด็จวัดระฆังคาปากมั้ยละครับ เค้ากะอมไว้ในปากกะให้ปืนยิงไม่ออกสุดท้ายก็ตาย ถ้าเราเป็นคนดี รักษาศีลหมั่นทำบุญ หากถึงคราวเคราะห์เล็กน้อย พระก็ช่วยปัดเป่าไปได้ครับ แต่ถ้ากรรมหนักยังไงก็ตายครับ พระสมเด็จวัดระฆัง มีจุดดีหลายๆส่วนที่คนอยากได้ไว้ครอบครอง นั่นคือ
1.ผู้สร้างเป็นอริยะสงฆ์เจ้า ตัดขาดกิเลสทางโลก ไม่มุ่งหวังลาภยศ ถึงแม้ท่านจะดำรงฐานะเป็นถึงสมเด็จแต่เพราะมีเหตุ อยากรู้ต้องติดตามครับ เดี๋ยวเอามาเขียนสำหรับคนไม่รู้ หรือใครใจร้อนไปหาประวัติดูได้ทางเว็บไซด์นะครับ

2.มวลสารพิเศษมากมายที่ท่านรวบรวมมาไว้ หลายๆสิ่งที่สมัยนี้ไม่มีแล้ว

3.มีความเก่าแก่ มีพุทธศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม

4.ผู้ที่ช่วยกดทำพระ ล้วนมาด้วยใจ ด้วยศรัทธา เพื่อร่วมทำบุญ มีทั้งคนทั่วไป ขุนนาง คนติดฝิ่น(ให้มานั่งทำเพื่อให้มีสมาธิ และเพื่อลดอาการติด มีคนเลิกได้หลายคน แต่นี่เป้นข้อมูลปากต่อปากไม่ได้มีบันทึกนะ ผมแทรกไว้เฉยๆ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ได้หวังให้ได้ตอบแทนเป็นทรัพย์สินอื่นไม่ ทั้งนี้ทำเพื่อกุศลกรรมจริงๆ  ถ้าสมัยนี้...ไม่พูดดีกว่าคิดเอาเอง

5.มีราคาสูง เอ้ย!!! อันนี้ไม่ใช่ แต่คิดว่าหลายคนคิดนะ 5555+

6.อาจจะมีเหตุผลอื่นที่มากกว่านี้ เด๋วไว้คิดได้ค่อยมาพิมพ์เติมทีหลัง คนมาดูกลุ่มแรกๆต้องทำใจนะ


ในมวลสารสมเด็จนั้นมีอะไรมั่ง? ไว้ต่อคราวหน้าละกัน วันนี้ผมแอบแว๊บมา ก่อนที่จะเตรียมตัวไปทำธุระส่วนตัวนะครับ วันนี้ขอให้ความสวัสดีจงมีแก่ทุกท่าน





วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ฐานแซมองค์ที่1 somdej wat rakang

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ฐานแซมองค์ที่1 ราคาประเมิน3.5ล้าน somdej wat rakang



พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม








สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งครับ หลังจากพักผ่อนกันมา4วันในช่วงหยุดยาวเทศกาลวันแม่นี้ หวังว่าเป้นอย่างที่การเดินทางของทุกท่านจะเป็นได้โดยสะดวก และอย่างมีสวัสดิภาพกันทุกคน

วันนี้เช่นเคยครับ หยิบพระองค์นี้จากตลับครับ เป็นตลับเงินเก่าบางทีก็อาราธนาติดตัวครับ หลังๆนี่ถูกโฉลกชอบใจ พระสมเด็จเกศไชโย 7ชั้น ที่สำคัญเนื้อก้นครกหายากมาก เคยเห็นองค์นึงลักษณะนี้อยู่ในมือของเซียนเล่นพระท่านนึงที่เคยลงหนังสือเมื่อหลายสิบปีก่อนที่พ่อซื้อเก็บไว้ศึกษา ที่ชื่อว่า อาจารย์คีโท ถั่วทองครับ อิอิ แล้วโชคดีมากที่เห็นพระองค์นั้นลงแค่ครั้งเดียวแล้วไม่เคยเห้นที่อื่นอีกเลย และผมมั่นใจว่าหากพระองค์นี้ไม่ได้บอกว่าเป็นภาพของอาจารย์คีโท เซียนต้องตีเก๊อย่างไม่ต้องคิด!! จริงๆที่เค้าตีว่าไม่ใช่หรือไม่ทันยุค เพราะต้องกันไว้ก่อนครับ นั่นคือถึงแม้พระองค์นั้นจะแท้70-80% แต่ถ้าคนรับไร้ชื่อเสียง ขาดลมปราณผลักดัน พระองค์นั้นไปไม่ได้ครับ แล้วจะจมทุน แต่ในพระองค์เดียวกันหากอยู่ในมือผู้มีความสามารถข้างต้น จะกลับเป็นแท้อย่างน่ากังขา แท้ดูง่าย แม้จะขัดสายตาหลายคนแต่ส่วนใหญรอรับฟังครับ เค้าถึงต้องหาพระที่100% พิมพ์ถูกเป๊ะ เนื้อถูกเป๊ะ และธรรมชาติต้องเป๊ะ ถ้าให้ดีเหมือนในรูปของเซียนพระระดับสิบสุดยอดในประเทศยิ่งดีครับ และเช่นกัน ต้นทุนของพระก็ต่างกันครับ บางทีไว้ใจเซียนไม่ได้แต่ก็เข้าใจไว้วันหลังเล่าให้ฟัง เคยเจอมั้ยสมเด็จวัดระฆังเข้าสนามองค์ละ500บาท (คนขายถูกตีเก๊ตอนแห่สนามภูธร ตอนหลังเจ็บใจเลยเล่าให้ฟัง) พอหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงขึ้นไป5แสน และออกจากสนามไปราคาหลักล้านบาท!!! และเป้นที่แน่นอนว่าเข้ารังพระเสี่ยไปคนหนึ่งในราคาที่แพงกว่านั้นครับ ผมสะใจไอ้คนเล่าครับที่ขายไปเพราะหวังจะไปต้มเซียนเพราะไม่เชื่อสายตาตัวเองครับ เจอข้อหาเก๊เก่าเลยะกะเอาไปปล่อยรวมๆกะพระอื่นๆยิบย่อยกองนึง ก็แล้วแต่นะครับของแบบนี้พิสูจน์ได้ ถ้ากล้าพอนะครับ หาพระแท้ๆหลักแสนซื้อจากที่ศูนย์เซียนใหญ่แล้วแห่ดู แล้วลองเปิดราคาเท่าที่ซื้อมาครับ ถ้าไม่โดนว่าเก๊ ก็ไม่รับ หรืออาจจะเจอคำพูดขำๆที่ว่า พี่จะซื้อเอาไว้ดูเนื้อ!!!


มาดูที่พระสมเด็จ ฐานแซมองค์นี้กันครับ พระองคืนี้จัดเป็นกลุ่มพิมพ์ใหญ่ฐานแซม ไม่ต้องงครับพิมพ์ฐานแซมก้มีหลายแม่พิมพ์เช่นกันครับ พระสมเด็จองค์นี้นักสะสมสมัยก่อนเรียกเนื้อขนมตุ๊บตั๊บครับ แต่องคืนี้เนื้อรวมตัวกันกว่า เพราะถ้าเป้นขนมตุ๊บตั๊บจริงคงป่นไปแล้ว สภาพรวมพระองค์นี้มีหลายจุดที่ควรศึกษา ธรรมชาติต่างๆ บางช่วงมีรอยทรุดหรือยุบลงเล็กน้อยถ้ามองที่ระนาบผิวจะเห็นชัดเจนครับ พระมีการแตกลายงาน้อยมีก็รอยปริแยกเลย และมีบ่อ มีแอ่ง ที่มวลสารหลุดไปแล้วและยังไม่หลุดประปรายครับ  ผิวทีหลุดก็เผยให้เห็นถึงเนื้อพระภายในที่ขาวตุ่น เค้าว่ากันว่าพระสภาพเก่าจะมีชั้นผิว พระใหม่จะไม่มีครับ ไม่ใช่ชั้นแป้งโรยพิมพ์ แต่เพราะชั้นผิวบนนั้นสัมผัสกับสภาพแวดล้อมหลายอย่าง โดยธรรมชาติในส่วนผิวนั้นจะเป็นส่วนแรกที่สุดที่โดนสัมผัส ยิ่งนานวันความแตกต่างเริ่มปรากฎครับ องค์นี้ลองชมครับจัดเจนเลยทีเดียว

เม็ดพระธาตุ
บริเวณนี้สังเกตุรอยหลุมให้ดี เค้าเรียกว่าเม็ดพระธาตุนะสมัยก่อน ถ้าเม็ดนี้หลุดบริเวณนี้จะเรียกบ่อน้ำตา

รอยแยกพระสมเด็จ
ตรงจุดนี้ทรุดลงไปแบบพื้นทรุด จะไม่ทรุดในทีเดียวแต่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป

ชั้นผิวพระ สมเด็จวัดระฆัง
ผิวที่หลุด เผยให้เห็นชั้นของผิว

เนื้อผุด เนื้องอก พระสมเด็จวัดระฆํง
มีเนื้อพระผุดขึ้นมางอกเป็นหย่อมๆ

ขอบพระสมเด็จวัดระฆัง
ขอบพระที่ผ่านการใช้มาจะสึกมนบางจุดมีการหด บางจุดมีเนื้อปูดขึ้นมาเล็กน้อย ทำให้แลดูเป็นลอนคลื่น

เส้นซุ้มพระสมเด็จวัดระฆัง
แม้พระจะใช้จนสภาพสึกแต่ก็ยังเห้นเส้นซุ้มเซาะคล้ายเส้นขนมจีนวางบนผิวระนาบ



วันนี้ฝากทิ้งท้ายนะครับ เล่นพระหรือของสะสมต้องเล่นด้วยความพอดีให้สมฐานะนะครับ และต้องรู้จุดประสงค์ก่อนครับว่าชอบเพราะรัก ชอบค้นคว้า ชอบวิจัย อย่างผมนี่ออกแนวผจญภัยแบบโจรสลัดหรือซินแบดครับ หรือถ้าชอบเพื่อการพานิชย์ อันนี้แนะนำเลยครับอย่าเล่นนอกลู่นอกทางแบบผม มันจมทุนครับ ให้ท่านไปหาเช่าที่เค้าลงหนังสือไว้ หาหนังสือที่เป้นพวกสากลครับ แล้วซื้อหนังสือเก็บไว้ด้วยที่ผมเห้นๆนะครับ ก็หนังสือกรุงสยาม เซียนพระ ส่วนดัชนีพระก็ดูๆเอาหน่อยครับไม่ใช่ไม่แท้นะครับ แต่จะออกต่อต้องอาศัยเพาเวอร์อย่างที่ผมบอก แต่ข้อดีคือราคาเช่าหาจะถูกกว่า รับรองครับเก็บไว้พระมีแต่ขึ้นราคา เดี่ยวนี้ขนาดพระสมเด็จเก๊ๆ ยังเริ่มที่500บาทนะครับ ถ้ามีโหงวเห้งขึ้นมาบ้าง แบบระดับเกรดD+ เออ...ผมประเมินราคาให้เลยดีกว่า ถ้าC - C+ จะก้ำกึ่งกัน ก็ระดับ 800 บาท ถ้าB ก็ระดับ 2พันอัพ-5พัน(ในระดับนี้มีเก๊ระดับสูงบนมาเยอะ)  ถ้าB+อันนี้พระที่หาที่ไปที่มาไม่ได้ เช่นเนื้อใช่ พิมพ์ไม่ใช่ จะเริ่มที่หมื่นอัพครับเป็นพระแท้ และเก๊ระดับปราบเซียน  ถ้าA ขึ้นไปก็ต้องว่ากันที่หลักหมื่นกลางไปจรดหลักแสนครับ อันนี้จะเป็นพระที่เนื้อใช่ธรรมชาติใช่ แต่พิมพ์ไม่เป๊ะ นั่นคือเป็นพิมพ์ทรงที่ไม่ค่อยปรากฎสู่สายตานักสะสม เซียนขี้เกียจเล่นหาและคนเช่าต้องรู้จริงครับ รวมไปถึงพระที่พิมพ์เพี้ยนๆในบางจุด ซึ่งตรงคอนเซ็ปที่ว่า การพิมพ์พระสมัยก่อนหลายๆครั้งเมื่อมีเนื้อพระติดก้ต้องมีการเคาะการขูด เพื่อให้พิมพ์สะอาด พอทำหลายๆครั้งย่อมมีชำรุด จึงทำให้รายละเอียดบางจุดเปลี่ยนไป ซึ่งสมัยก่อนพระสมเด็จยังไม่มีมูลค่าครับ คนทำถ้ารู้คงตั้งใจใช้แม่พิมพ์เดียวทำแจกให้หมดทุกคน ไม่ต้องให้มานั่งปวดหัวครับ แต่ผมก้ว่าดี เพราะไม่งั้นพระดีดีไม่ตกถึงมือคนจนแน่ครับ   ต่อไปA+พรีเมี่ยมขึ้นไป หลักแสนปลายถึงหลักหลายสิบล้าน พระที่ถูกต้องตามแบบนิยมในหนังสือพระระดับสูงยิ่งอยู่ในมือใครที่ดังเท่าไหร่ราคายิ่งแพง แต่กว่าพระจะถึงแต่ระดับสิบล้าน พระองค์นั้นมีเส้นทางการเป็นมาเยอะครับ แค่เฉพาะค่าลงโฆษณาหน้าปกอย่างเดียว (เคยโทรไปถามขนาดสำนักพิมพ์ที่ไม่ดัง ประมาณ3-5หมื่นอัพ ) ที่เหลือจะมีค่าอะไรบ้างกลับไปลองคิดดูเล่นๆกันครับ  วันนี้เล่าสู่กันฟังแถมท้ายแค่นี้นะครับผม สวัสดีครับ

วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่1 somdej wat rakang

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ที่1 somdej wat rakang

พระสมเด็จวัดระฆัง ยุคปลาย
พระสมเด็จวัดระฆัง ยุคปลาย


สวัสดีครับผม พบกันอีกเช่นเคยนะครับ วันนี้ผมเอาภาพพระสมเด็จแนวเก่าๆมาฝากอีกแล้วครับ หยิบได้องค์ไหนก่อนก็เอามาถ่ายก่อนเลยครับ รักและเคารพศรัทธาทุกองค์เหมือนกัน องค์นี้บอกก่อนเลยว่าเป็นพระนอกวงการครับ ในวางการไม่นิยม!!! อันพระสมเด็จนั้น หากใครไม่เคยได้สัมผัสจะไม่เข้าใจครับ จริงๆเราไม่ได้เป้นคนเลือกพระครับ แต่พระเป็นคนเลือกเราครับ จะเห็นว่าทำไมพระที่อยุ่บนหิ้งหรืออยู่บนแผงทำไมไม่มีใครไปหยิบ แต่ต้องเป็นเรา นั่นเป็นเพราะว่า มีพลังบางอย่างให้เราหยิบและเกิดศรัทธาเลยเช่ากลับมาครับ ซึ่งคนอื่นจะไม่มี ความรู้สึกแบบนั้นครับ เอาง่ายๆพระบางองค์ของเราแท้เราว่าไม่สวยแต่คนอื่นบอกว่าสวยสุดยอด แต่องค์ที่เราว่าสวยกลับบอกกันว่าไม่สวย ก็เป็นซะอย่างนั้นไปก็มี...

เอาละครับ ขอกลับเข้ามาที่พระองค์นี้ก่อน พระองค์นี้ลักษณะทั่วไปพระผงสีขาว มีแตกลายงา มีรอยยุบตัวบ้าง ซึง่เป้นธรรมชาติอย่างนึงที่พระสมเด็จควรที่จะมีครับ ส่วนพระผสมของมวลสารค่อนข้างดีที่เดียว ดูจากเอกลักษณ์ของแม่พิมพ์และส่วนผสมทางเนื้อหาน่าจะเป็นพระสมเด็จของสมเด็จโตยุคปลายๆครับ องค์พระมีความสวยงามและแกร่งพอดู คล้ายผิวกระเบื้องหินอ่อน แต่ยังคงทำแม่พิมพ์แบบตัดภายนอกอยู่!!! พระสมเด็จยุคหลังมีข้อดีคือ
1.จะสวยงามและมีมวรสารเพิ่มเติมครบครันกว่ายุคแรกๆ
2.การภาวนาจิต การลงคาถานั้นวิชาย่อมแกร่งกล้ากว่าตอนที่ท่านยังพรรษาอ่อนๆอยู่
3.มีหลายพิมพ์ทรง โดยเฉพาะหลงหูหลงตามีมาก ทำให้เราเช่าหาราคาถูก

แต่ทั้งนั้นท่านต้องศึกษาหลายตำรามาเทียบกันครับ ยิ่งรู้มากยิ่งได้พระดีเยอะ และที่สำคัญครับ ท่านต้องจำไว้ ใจเราต้องหนักแน่นครับ อย่าลืมว่าพระเลือกเรา ไม่ใช่เราเลือกพระ

พระองค์แรกที่หยิบออกมาอย่างไม่ตั้งใจ แต่พอเขียนออกมาเล่าสู่กันไป กลับทำให้กลายเป็นกำลังใจให้กับนักสะสมนอกวงการทุกท่าน ซึ่งผมคิดว่าทุกท่านคงต้องมีพระสมเด็จที่เค้าว่าไม่ใช่ ว่าเก๊ หรือไม่แน่ใจ ก็จะได้ระลึกไว้ว่า "เก๊อยู่ในมือเรา ดีกว่าไปแท้ในมือเค้านะครับ"  วันนี้ขอลาไปก่อนนะครับผม ขอให้มีความสุขในวันหยุดติดต่อกัน4วันครับผม

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระเครื่ององค์แรกที่ได้ลงกล้อง...พระสมเด็จวัดระฆัง somdej wat rakang

พระเครื่ององค์แรกที่ได้ลงกล้อง...พระสมเด็จวัดระฆัง somdej wat rakang

พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ มูลค่า 5ล้านบาท



พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
พระสมเด็จ, พระสมเด็จวัดระฆัง, พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่

พระสมเด็จองค์นี้เป็นพระเครื่ององค์แรกที่ได้ส่องแต่ก่อนเป็นของพ่อครับ พ่อเอาองค์นี้มาสอน พระสมเด็จองค์นี้ไม่เคยถูกนำมาบูชาเลย สภาพเป็นอย่างงี้ตั้งแต่พอได้รับมา สภาพแบบนี้พ่อบอกว่าค่อนข้างสมบูรณ์แล้วถ้าได้ใช้อีกหลายๆปีผิวจะชุ่มฉ่ำกว่านี้ สีสรรจะจัดจ้าน ซึ่งแลกกลับมากับพระที่ช้ำและสึกแต่ทำให้ได้เสน่ห์ไปอีกทางนึง พ่อบอกว่าพระสมเด็จแต่ละองค์จะมีความคล้ายกัน และความไม่คล้ายกัน แต่ให้เรียนจากที่ส่วนใหญ่คล้ายกันก่อน แล้วศึกษาธรรมชาติให้เป็น แล้วเอาไปต่อยอดหาพระเอาเอง แต่เริ่มแรกพ่อบอกให้เอาไปนั่งส่องก่อนให้เอาพระวางบนผ้านุ่มๆหนาๆระวังทำแตก แล้วก็สอนวิธีหยิบพระวางบนฝ่ามือให้ถูกต้อง เออ..พ่อยังบอกอีกว่า ให้หาแว่นส่องพระดีๆ ขนาดซัก10x-16x ถ้าได้ที่เค้าไว้ส่องเพชรยิ่งดี ตาจะได้ไม่เสีย แล้วก็ส่องได้นาน ดูนุ่มนวลตามากกว่า กล้องอันแรกผมเก็บเงินซื้อเองยี่ห้อ BelOMO ขนาด10x ครับ ซื้อมือสองจากคลองถมอันละ 200 บาทมั้งถ้าจำไม่ผิด เอาละกลับมาคุยที่ค้างไว้ต่อ ก่อนที่ผมจะส่องผมว่าพระองค์นี้สีเหมือนต้มยำน้ำข้นที่แอบใส่นมนิดๆนะ ไม่ค่อยเหมือนพระผงแบบที่เห็นทั่วไป เมื่อได้รรดกล้องมองไปที่พระองค์นี้ ครั้งแรกที่ผมได้ส่องพระ ผมเหมือนได้เห็นภูมิประเทศของอาณาจักนึง มีทั้งรอยแตกยุกยิก มีบางอย่างเกาะผิวเป็นหย่อมๆขาวๆ มีบางอย่างปุดซึมขึ้นมา พอค่อยๆพลิกส่องเอียงๆให้โดนแสง บางจุดส่องประกายเป็นจุด บางมุมมีแท่งเทา บางจุดเป็นก้อนเล็กสีม่วงคล้ายสีเผือก บางจุดเป็นเทาขุ่น บางจุดมีสีทองประกาย บางจุดมีสีเงินประกาย มีแผ่นส้มๆเล็กๆ มีจุดสีดำ เหล่านี้พ่อว่าเป็นมวรสารที่ไว้โรยที่ผสมตอนกดพิมพ์พระขึ้นมา โดยหลักการผู้ทำมักต้องการที่จะกะในจำนวนที่เท่าๆกัน แต่ความเป็นจริง อาจมีหนักมือ เบามือกันไปบ้าง อาจจะมีมวรสารครบ อาจขาดบ้าง แล้วแต่จริงๆครับ เดี๋ยววันหน้าจะหาเทคนิคมาถ่ายเจาะลึกแบบมาโครให้ได้เห็นกัน ในส่วนต่างๆผมชอบส่องที่สุดก็คงจะเป็นส่วนวงแขนตรงช่วงท้องกับหน้าอกครับ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรส่องแล้วสบายตาจัง ผมว่าเส้นสายการจัดวางนี่ละมั้งที่เค้าว่า เป็นงานระดับมาสเตอร์พีซ ของคนที่เป็นระดับช่างหลวง เอ...ว่าแต่ช่างหลวงมีหลายคนนะครับ ช่างหลวงที่ตำราหลายเล่มต่างยกย่องถึงเรื่องการทำแม่พิมพ์ให้กับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ต่อจากนี้ไปผมขอเอ่ย พระนามท่านอย่างย่อว่าสมเด็จโตนะครับ ช่างหลวงผู้นั้นคือ หลวงวิจารณ์เจียรนัย ว่ากันว่าเพราะความศรัทธา ท่านจึงแกะแม่พิมพ์จากหินอ่อนไปถวาย อันนี้ผมก็ไม่รู้ซินะครับ คือเกิดไม่ทัน ทุกอย่างเป็นตำนานเล่าต่อกันมา ส่วนจำนวนแม่พิมพ์ ที่คุณหลวงทำถวาย บ้างก็ว่ามี2อัน  หนึ่งพิมพ์ใหญ่ และหนึ่งพิมพ์เกศบัวตูม แต่ก็ว่ากันอีกว่าไม่ใช่ น่าจะมี4แบบ โดยมีเพิ่มมา2 นั่นคือพิมพ์ทรงเจดีย์ พิมพ์ฐานแซม และไม่แน่ใจว่าอีกพิมพ์นึงพิมพ์ที่5 นั่นคือพิมพ์ปรกโพธิ์ นั้นจะได้รับการยอมรับหรือไม่ ถ้าในระดับผู้สะสมนอกวงการทั่วไปล้วนยอมรับว่าใช่ แต่คนในวงการระดับสูง(ตอนนั้นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว) ยังคลุมเครือ แล้วปัญหาอีกอย่างคือ ถ้าเช่นนั้น พิจารณาแค่พิมพ์ใหญ่อย่างเดียว ที่เป็นพระระดับหลักล้าน ที่ล้วนบอกว่าต่างก็เป็นพิมพ์หลวงวิจารย์ทั้งสิ้น แล้วพยายามบอกว่าพิมพ์เดียวกัน ในบางอค์เหมือนกันจริงๆผมเอามาเทียบแบบฟิมล์ใสดูเลยครับ ทั้งซุ้ม ทั้งองค์พระวางอยู่ในตำแหน่งเดียวกันเป๊ะ และขนาดเส้นสายเท่ากันด้วย แต่บางองค์นั้นผมเอามาเทียบแล้วไม่ใช่เลย ซึ่งถ้าเอาพระสมเด็จในวงการกลุ่มราคานิยมหลักล้านมาพิจารณา ผมได้ออกมาประมาณ10กว่าแบบ นี่เฉพาะพิมพ์ใหญ่นะครับ ที่ใกล้เคียงทั้งธรรมชาติและเนื้อหา แต่....น่าแปลกใจคือ นับวันมีพระหลายๆองค์ที่หายสาปสูญไปจากหน้าสารบบหนังสือพระ จะเห็นแต่มีพระสมเด็จหน้าดาราองค์เดิมๆ จนทำให้นักสะสมหน้าใหม่ๆเข้าในว่า พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ มีแค่4ไม่เกิน6แบบ แค่4แบบวงการระดับนั้นยังไม่อยากรับเลยผมขอพูดตรงๆ เพราะไม่มีส่วนได้เสีย เดี่ยวเรื่องนี้ขอพักไว้ก่อนเดี๋ยววันหน้าค่อยมาว่ากันต่อนะ เพราะรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก และยังไม่รวมแม่พิมพ์อันอื่นๆอีกที่เค้าว่ากันว่ามีกันหลายร้อยแม่พิมพ์เลยทีเดียว ที่ได้ความรู้ว่าก็เพราะเริ่มจากการส่องพระองค์นี้แหละครับ  บางคนอาจจะพลาดพลั้งทำของดีหลุดมือไปก็เพราะแบบนี้แหละครับ อยากฝากไว้เรื่องนะครับ เราสะสมพระก็จริงอยู่ว่าบางทีก็ต้องออกตัวปล่อยของบ้าง แต่ก็อย่าให้เงินมันทำให้เกิดกิเลสความโลภจนบังตา แล้วสักวันพออายุเริ่มมากขึ้น ประสบการณ์มากขึ้น ก็จะเข้าใจครับว่าพระเครื่องให้อะไรเรามากกว่านั้น แล้วอย่าลืมติดตามกันตอนต่อไปนะครับ เดี๋ยวเอาพระสมเด็จมาค่อยให้ชมทีละองค์นะครับ