พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่18 somdej wat rakang amulet
สวัสดีครับทุกท่าน คราวนี้ผมนำสมเด็จมาให้ชมกันอีกองค์ครับ ความแปลกอยู่ที่พระองค์นี้เขย่าแล้วมีกริ่งอยู่ภายในด้วยครับ ไม่ธรรมดาใช่มั้ย พระแบบนี้มีทั้งแท้และมีทั้งปลอม ที่เค้าปลอมเพราะว่าเคยมีของแท้ครับ!! สมัยก่อนต้องนึกดูก่อนนะครับว่าพระสมเด็จพึ่งจะดังยุคหลังๆมานี่เอง สมัยก่อนพระชุดกิมตึ๋งยังดังกว่าครับ แล้วพระพวกนี้ก็มีมานานแล้วเท่าที่สืบความมาได้จากคนเก่าแกที่ยืนยันกันต่อมาว่ามี ก็เอาหน่าเราได้มาฟรีๆจะไปคิดไรมาก ตอนที่ผมพบเจอในหิ้งพระครั้งแรกก็รู้สึกตื่นเต้นครับ เหมือนได้เจอขุมสมบัติ มีใครมีอาการเหมือนผมมั่งมั้ย ที่ผมชอบเดินซื้อหาของเก่าก็เพราะเหมือนได้ไปดูสมบัติของคนอื่นด้วย มันทำให้ได้ความรู้และได้เปิดโลกทัศน์ให้มากขึ้น ผมว่าการดูพระให้เก๊ ง่ายกว่าการดูพระให้แท้นะครับ ผมจำพระสมเด็จระดับต้นของประเทศได้เกือบทั้งหมด แม้แต่เอาพระกลุ่มนี้มาเทียบกันเองก็ยังมีคุณสมบัติไม่ครบ ถ้ายึดตามเกณฑ์จริงๆในจำนวนนั้นจะหายไปกว่าครึ่ง ผมเองก้สงสัยเหมือนกัน อย่างบางทีแบบประมาณว่าพิมพ์เดียวกัน ผมนั่งมองตะแคงไปมา มันเหมือนกันตรงไหนว่ะ อ้าว...เหมือนก็เหมือน อย่างงี้ถ้าแท้ขายได้เป้นสิบล้านก้ต้องจำไว้ครับ เผื่อจะฟลุ๊ค เข้าเวทีไหนก็ต้องเคารพในเวทีนั้น จะเอาเกณฑ์แบบมวยวัดไปเทียบได้ไงครับ
ผมว่าอนาคตจะมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาแล้วก็จะเอาพระสมเด็จที่ตนครอบครองมาอวด คราวนี้แหละจะมีพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ D E F G H ใครก็ไม่กล้าฮือครับ แท้ก็แท้เจ้านาย
ตรงส่วนนี้อยากให้ดูรอยแตกลายงาจากใหญ่ยิบย่อยแตกแขนงเป็นเส้นเล็ก เนื้อหาอย่างกับกระเบื้อง กระทบโต๊ะหินอ่อนดังกิ๊กๆ มีเศษทอง เศษรักติดอยู่ประปราย รักสีออกม่วงดำ
ตรงส่วนนี้ให้ดุรอยรักที่ทิ้งเอาไว้ แล้วก้ตรงรอยยุบตัว แบบค่อยๆเป็นค่อยไปครับ
ตรงส่วนนี้ ฐานจะหนากว่าปกติครับ ผมลืมบอกไปว่าองคืจริงหนาและใหญกว่าปกติเล็กน้อย 4/3 ของพระสมเด็จทั่วไปตามปกติครับ
ด้านหลังครับ ปาดเรียบงดงาม มีริ้วรอยปรากฎ มีคราบตังอิ้วผุดขึ้นเป็นกลุ่มๆ นี่ก็เป็นจุดที่ควรพิจารณาพลาดไม่ได้ครับ
วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557
วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่17 somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่17 somdej wat rakang amulet
สวัสดีครับทุกคน วันนี้อากาศหนาวกว่าเมื่อวานซะอีกนะ ขอให้เป็นอย่างนี้ไปตลอดหน้าหนาวเลยนะชอบๆ กินกาแฟหน้าบ้าน บรรยากาศดีจริงๆ
วันนี้นะครับผมนำพระสมเด็จมารให้ชมอีกองค์ ซึ่งพิมพ์นี้หาดูได้ยากในอดีตเคยลงในหนังสือพระลานโพธิ์ โชว์ไม่กี่ครั้งเป็นของเซียนพระสายสมเด็จท่านนึงครับ ความแปลกคือดูที่พระกรด้านขวามือเราครับ ถ้ามองดีดีคล้ายกับท่านั่งสมาธิของสมเด็จโตรึเปล่า? จากที่ผมเคยได้ศึกษาผ่านตามา ปกติแล้วการออกแบบแม่พิมพ์ส่วนมากจะแฝงปริศนาธรรมเอาไว้นะครับ โดยเฉพาะในยุคแรกๆของวัดระฆัง ที่ไม่นับช่วงทดลองทำพระใหม่ๆของสมเด็จโต ที่ยังไม่มีคนเป็นคนช่วยทำแม่พิมพ์ขึ้นมาให้
ในส่วนเส้นสายต่างๆ ก็ออกเป็นแนวของช่างคนเดียวกันที่แกะพระสมเด็จแนวนี้ ที่เป็นเส้นสายแบบนี้ เราดูพระไปเยอะๆ จะเห็นและแยกแยะฝีมือช่างผู้แกะพิมพ์ได้ครับ ที่แน่ๆไม่ใช่แม่พิมพ์หลวงวิจารย์ครับ
ในส่วนของเนื้อหามีความแห้งเก่าและผสมตังอิ้วพอดู (ในส่วนตังอิ้วผมว่าผู้แนะนำอาจไม่ใช่หลวงวิจารย์ก็ได้ครับ เค้ามีใช้กันมานานแล้ว แต่เพราะบางช่วงของต้องรอจากเมืองจีนส่งมาขาย สมัยนั้นเรายังทำไม่ได้ครับ บางครั้งจึงต้องลองหาวัสดุอย่างอื่นลองดูทดแทน เพื่อช่วยเป็นตัวประสาน) องค์นี้โดนล้างมาบ้างครับ เพื่อทดสอบความเก่าโดยเอาไปแช่น้ำร้อนเพื่อทดสอบฟองอากาศแบบคนสมัยก่อนชอบทำกันมา ทำให้ความงามจากผิวที่มีตังอิ้วปกคลุมหายไปด้วยบางส่วน อันความชอบคนคนไม่เหมือนกันนะครับ บางคนชอบแบบเนื้อขาวๆซีดๆแห้งๆ บางคนชอบฉ่ำๆ บางคนชอบหนึกๆ บางคนชอบกร่อนๆจัดจ้าน แต่ถ้าเราชอบอนุรักษ์แบบเดิมๆก็ปล่อยไว้ไม่ต้องล้างก็ดีแล้วครับ พระแบบนี้ต่อให้ล้างไปก็ไม่มีใครไปซื้อหรอกครับ50ล้าน หลักแสนอาจจะมีนะถ้าตาถึง แต่ถ้าองค์นี้ตกไปอยุ่ในมือคนมีชื่อเสียง แล้วเพิ่มมูลค่าโดยฉายหนังเก่าเล่าอดีตให้ฟัง เป็นล้านอาจจะมีคนยอมควักตรงความแปลกและมีอยู่ในตำนานจริงๆก็ได้
รูปนี้ผมทำลูกศรไว้ชี้จุดข้อสังเกตุ ที่พระสมเด็จเก่าๆควรมีครับ ซุ้มเซาะหดตัวม้วนเข้าไปข้างใน รอยนาคเกี๊ยวเลื้อยลงมา รอยปริ รอยยุบ ตัวต่างๆ
รูปนี้ให้ดูซอกแขนที่แกะลึกเทรดับมาทำให้เกิดพื้นผิวต่างระดับดูมีมิติ โค้ง อ่อนช้อย สวยงาม
รูปนี้ให้ดูฐานทั้ง3 สวยงามรับกับพระชงค์ขององค์พระ หัวฐานสิงห์สวยงามครับ
รูปนี้ให้ดูบรเิณด้านหลัง เป็นลักษณะปาดเรียบเก็บงาดเรียบร้อย มีรอยครืดของมวลศาล มีรอบปริแยกตามขอบ มีเม็ดมวลสารหลุดบ้าง
และนี่คือทั้งหมดของพระสมเด็จองค์นี้ครับ ก่อนจากกันคราวนี้อยากจะให้ทุกคนสะสมพระเครื่องอย่างสบายใจครับ ไม่ต้องเถียงกันไปมา เราสะสมเราเช่าหาเราได้มาจากคนที่รักเรา เท่านั้นพอครับ อย่าไปเถียงกันมาก ถึงชนะไปพระพวกคุณก็ขายไม่ได้50ล้าน หรือให้เอาพระของตนที่ว่าแน่ แล้วยืนคนละฝั่งจ่อหัวแล้วยิงคนละนัดสุดท้ายก็ตายอยู่ดีครับ ในสังคมเรานี้บางทีก็แปลกที่ต้องทะเลาะกันในสิ่งที่มโน และยอมตายเพื่อศักดิ์ศรีที่ปกป้องในสิ่งที่ไม่เคยมีจริง...
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ไว้พบกันคราวต่อไป
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet |
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet |
สวัสดีครับทุกคน วันนี้อากาศหนาวกว่าเมื่อวานซะอีกนะ ขอให้เป็นอย่างนี้ไปตลอดหน้าหนาวเลยนะชอบๆ กินกาแฟหน้าบ้าน บรรยากาศดีจริงๆ
วันนี้นะครับผมนำพระสมเด็จมารให้ชมอีกองค์ ซึ่งพิมพ์นี้หาดูได้ยากในอดีตเคยลงในหนังสือพระลานโพธิ์ โชว์ไม่กี่ครั้งเป็นของเซียนพระสายสมเด็จท่านนึงครับ ความแปลกคือดูที่พระกรด้านขวามือเราครับ ถ้ามองดีดีคล้ายกับท่านั่งสมาธิของสมเด็จโตรึเปล่า? จากที่ผมเคยได้ศึกษาผ่านตามา ปกติแล้วการออกแบบแม่พิมพ์ส่วนมากจะแฝงปริศนาธรรมเอาไว้นะครับ โดยเฉพาะในยุคแรกๆของวัดระฆัง ที่ไม่นับช่วงทดลองทำพระใหม่ๆของสมเด็จโต ที่ยังไม่มีคนเป็นคนช่วยทำแม่พิมพ์ขึ้นมาให้
ในส่วนเส้นสายต่างๆ ก็ออกเป็นแนวของช่างคนเดียวกันที่แกะพระสมเด็จแนวนี้ ที่เป็นเส้นสายแบบนี้ เราดูพระไปเยอะๆ จะเห็นและแยกแยะฝีมือช่างผู้แกะพิมพ์ได้ครับ ที่แน่ๆไม่ใช่แม่พิมพ์หลวงวิจารย์ครับ
ในส่วนของเนื้อหามีความแห้งเก่าและผสมตังอิ้วพอดู (ในส่วนตังอิ้วผมว่าผู้แนะนำอาจไม่ใช่หลวงวิจารย์ก็ได้ครับ เค้ามีใช้กันมานานแล้ว แต่เพราะบางช่วงของต้องรอจากเมืองจีนส่งมาขาย สมัยนั้นเรายังทำไม่ได้ครับ บางครั้งจึงต้องลองหาวัสดุอย่างอื่นลองดูทดแทน เพื่อช่วยเป็นตัวประสาน) องค์นี้โดนล้างมาบ้างครับ เพื่อทดสอบความเก่าโดยเอาไปแช่น้ำร้อนเพื่อทดสอบฟองอากาศแบบคนสมัยก่อนชอบทำกันมา ทำให้ความงามจากผิวที่มีตังอิ้วปกคลุมหายไปด้วยบางส่วน อันความชอบคนคนไม่เหมือนกันนะครับ บางคนชอบแบบเนื้อขาวๆซีดๆแห้งๆ บางคนชอบฉ่ำๆ บางคนชอบหนึกๆ บางคนชอบกร่อนๆจัดจ้าน แต่ถ้าเราชอบอนุรักษ์แบบเดิมๆก็ปล่อยไว้ไม่ต้องล้างก็ดีแล้วครับ พระแบบนี้ต่อให้ล้างไปก็ไม่มีใครไปซื้อหรอกครับ50ล้าน หลักแสนอาจจะมีนะถ้าตาถึง แต่ถ้าองค์นี้ตกไปอยุ่ในมือคนมีชื่อเสียง แล้วเพิ่มมูลค่าโดยฉายหนังเก่าเล่าอดีตให้ฟัง เป็นล้านอาจจะมีคนยอมควักตรงความแปลกและมีอยู่ในตำนานจริงๆก็ได้
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet |
รูปนี้ผมทำลูกศรไว้ชี้จุดข้อสังเกตุ ที่พระสมเด็จเก่าๆควรมีครับ ซุ้มเซาะหดตัวม้วนเข้าไปข้างใน รอยนาคเกี๊ยวเลื้อยลงมา รอยปริ รอยยุบ ตัวต่างๆ
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet |
รูปนี้ให้ดูซอกแขนที่แกะลึกเทรดับมาทำให้เกิดพื้นผิวต่างระดับดูมีมิติ โค้ง อ่อนช้อย สวยงาม
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet |
รูปนี้ให้ดูฐานทั้ง3 สวยงามรับกับพระชงค์ขององค์พระ หัวฐานสิงห์สวยงามครับ
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet |
รูปนี้ให้ดูบรเิณด้านหลัง เป็นลักษณะปาดเรียบเก็บงาดเรียบร้อย มีรอยครืดของมวลศาล มีรอบปริแยกตามขอบ มีเม็ดมวลสารหลุดบ้าง
และนี่คือทั้งหมดของพระสมเด็จองค์นี้ครับ ก่อนจากกันคราวนี้อยากจะให้ทุกคนสะสมพระเครื่องอย่างสบายใจครับ ไม่ต้องเถียงกันไปมา เราสะสมเราเช่าหาเราได้มาจากคนที่รักเรา เท่านั้นพอครับ อย่าไปเถียงกันมาก ถึงชนะไปพระพวกคุณก็ขายไม่ได้50ล้าน หรือให้เอาพระของตนที่ว่าแน่ แล้วยืนคนละฝั่งจ่อหัวแล้วยิงคนละนัดสุดท้ายก็ตายอยู่ดีครับ ในสังคมเรานี้บางทีก็แปลกที่ต้องทะเลาะกันในสิ่งที่มโน และยอมตายเพื่อศักดิ์ศรีที่ปกป้องในสิ่งที่ไม่เคยมีจริง...
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ไว้พบกันคราวต่อไป
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่16 somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่16 somdej wat rakang amulet
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เอาพระสมเด็จวัดระฆังอีกแบบหนึ่งให้ชมครับ อย่างที่บอกครับเรื่องราคาไม่ใช่สิ่งที่กำหนดให้พระองค์นั้นแท้หรือเก๊เสมอไปครับ เราเป็นนักสะสมกึ่งแนวของเก่าแบบนี้ก็สนุกดีครับ เหมือนได้ค้นคว้าทำวิทยานิพนต์แบบนักศึกษา ดีไม่ดีบางท่านนี่หากวัดความรู้ออกมาอาจเป็นได้ถึงระดับดอกเตอร์ทางสายนี้ก็เป็นได้นะครับ ไม่รู้ซินะพอศึกษาไปมากๆ (ผมห่างหายการหาข้อมูลมาประมาณ3ปีเพราะมัวแต่ไปสะสมของเล่นเก่าๆสมัยเด็ก) พอกลับมาใหม่ได้ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม บางหนังสือที่เค้าสแกนมาลงในเว็บก็เป้นหนังสือเก่าที่พิมพ์มานานแล้วเป้นตัวอ้างอิงได้ในระดับนึง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าพิมพ์ประสมเด็จวัดระฆังที่แท้จริงจะเป็นแนวโปร่ง สง่า บ้างมีล่ำสัน แต่เส้นสายประมาณนี้นะ ส่วนที่พิมพ์สวยๆผมเกรงว่าจะเป็นพระยุคปลายหรือไปทางพิมพ์ที่ฝังกรุบางขุนพรหมซะด้วยซ้ำไป แต่อย่างไรเสียขอให้ทันท่านปลุกเสกก้น่าจะเพียงพออยู่แล้วครับ พระทุกองค์ล้วนมีเจ้าของพอถึงเวลานึงก็จะต้องเปลี่ยนที่ไปครับ เป็นอนิจจัง
ตรงส่วนนี้จะสังเกตุพื้นผิวที่แห้งสนิดของพระที่ไม่เคยถูกใช้สัมผัสมา เส้นสายคมชัดสวยงาม เนื้อหาน่าส่อง เนื้อแบบนี้แหละครับที่ชวนดูมีเสน่ห์น่าหลงไหล ดูเงางามเป็นธรรมชาติ ส่วนของเก๊ที่ขัดเงาจะเป็นอีกแบบนึงครับถ้าได้ส่องจะเห็นความแตกต่าง ว่าเงาจุ่มน้ำมันเช็ดเหงื่อกับเงาเพราะผิวที่ตังอิ้วระเหยอกมาเคลือบผิวเป็นยังไง
ตรงจุดลูกศรแดง เป็นจุดที่ตังอิ๊งระเหยขึ้นมามากจนจับตัวเป็นกลุ่มสีเข้มข้นชัดเจน ผมส่องแล้วเห็นยางแข็งสีน้ำตาลปูดซึมขึ้นมา
ตรงจุดที่มีลูกศร ให้ดูลายเส้นที่อ่อนช้อย ที่เห้นขยุกขยิกนั้นไม่ใช่เกิดจากพิมพ์นะครับ แต่เป้นการหดตัวหลังจากที่ความชื้นระเหยออกไป ผิวเลยร่นล่มลงไป เลยแลดูขยุกขยิกครับ
หลุบยุบที่ลูกศรชี้ ปากรูจะแคบกว่าหลุมที่อยุ่ข้างในครับ หลักการนี้เอาไปใช้ดูพระเนื้อดินได้ครับ ตอนแรกผมคิดว่าเป้นแมลงกัดครับ แต่พอส่องดูดีดีๆมันเป้นการยุบตัวครับ เดี๋ยวจะให้เห็นตรงจุดที่เหมือนกับการวิวัฒนาการก่อนที่จะเกิดเจ้าหลุมนี้ขึ้นครับ
เห็นพื้นที่ที่ลูกศรชี้ตรงด้านซ้ายของพระพักต์หรือไม่ เห้นมั้ยครับรอยที่กำลังจะยุบตัวลงไป โอ้ว..เห็นลูกศรสีแดงที่ชี้ตรงบริเวณคางหรือไม่ นี่ก็เป็นจุดธรรมชาติอย่างนึงที่ใช้พิจารณาพระสมเด็จด้วยเช่นกันครับ อาจารย์ทั้งหลายเคยบอกว่าอยากได้พระสมเด็จเงินล้านหมั่นจำพิมพ์ อยากได้พระสมเด็จถูกหมั่นจำเนื้อหาและธรรมชาติครับ
ส่วนนี้ตรงบริเวณฐานครับแกะได้โค้งตวัดสวยงามดูอ่อนช้อยนุ่มนวลตาครับ
ส่วนนี้ด้านหลังครับ คราบตังอิ้วที่เริ่มก่อเป็นสนิมพระน้อยๆ แล้วให้ดูตรงรอยปาดด้านหลังเรียบร้อยเนียน มีร่องรอยของการครูดไถลขอวัสดุยามโดยปาดลากไปตามพื้นผิวครับ
วันนี้ขอจบการคุยเฟื่องเรื่องพระของผมเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ขอบคุณที่ติดตามแล้วพบกันใหม่ครับ
พระสมเด็จวัดระฆัง |
พระสมเด็จวัดระฆัง |
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เอาพระสมเด็จวัดระฆังอีกแบบหนึ่งให้ชมครับ อย่างที่บอกครับเรื่องราคาไม่ใช่สิ่งที่กำหนดให้พระองค์นั้นแท้หรือเก๊เสมอไปครับ เราเป็นนักสะสมกึ่งแนวของเก่าแบบนี้ก็สนุกดีครับ เหมือนได้ค้นคว้าทำวิทยานิพนต์แบบนักศึกษา ดีไม่ดีบางท่านนี่หากวัดความรู้ออกมาอาจเป็นได้ถึงระดับดอกเตอร์ทางสายนี้ก็เป็นได้นะครับ ไม่รู้ซินะพอศึกษาไปมากๆ (ผมห่างหายการหาข้อมูลมาประมาณ3ปีเพราะมัวแต่ไปสะสมของเล่นเก่าๆสมัยเด็ก) พอกลับมาใหม่ได้ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม บางหนังสือที่เค้าสแกนมาลงในเว็บก็เป้นหนังสือเก่าที่พิมพ์มานานแล้วเป้นตัวอ้างอิงได้ในระดับนึง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าพิมพ์ประสมเด็จวัดระฆังที่แท้จริงจะเป็นแนวโปร่ง สง่า บ้างมีล่ำสัน แต่เส้นสายประมาณนี้นะ ส่วนที่พิมพ์สวยๆผมเกรงว่าจะเป็นพระยุคปลายหรือไปทางพิมพ์ที่ฝังกรุบางขุนพรหมซะด้วยซ้ำไป แต่อย่างไรเสียขอให้ทันท่านปลุกเสกก้น่าจะเพียงพออยู่แล้วครับ พระทุกองค์ล้วนมีเจ้าของพอถึงเวลานึงก็จะต้องเปลี่ยนที่ไปครับ เป็นอนิจจัง
พระสมเด็จวัดระฆัง |
ตรงส่วนนี้จะสังเกตุพื้นผิวที่แห้งสนิดของพระที่ไม่เคยถูกใช้สัมผัสมา เส้นสายคมชัดสวยงาม เนื้อหาน่าส่อง เนื้อแบบนี้แหละครับที่ชวนดูมีเสน่ห์น่าหลงไหล ดูเงางามเป็นธรรมชาติ ส่วนของเก๊ที่ขัดเงาจะเป็นอีกแบบนึงครับถ้าได้ส่องจะเห็นความแตกต่าง ว่าเงาจุ่มน้ำมันเช็ดเหงื่อกับเงาเพราะผิวที่ตังอิ้วระเหยอกมาเคลือบผิวเป็นยังไง
พระสมเด็จวัดระฆัง |
ตรงจุดลูกศรแดง เป็นจุดที่ตังอิ๊งระเหยขึ้นมามากจนจับตัวเป็นกลุ่มสีเข้มข้นชัดเจน ผมส่องแล้วเห็นยางแข็งสีน้ำตาลปูดซึมขึ้นมา
พระสมเด็จวัดระฆัง |
ตรงจุดที่มีลูกศร ให้ดูลายเส้นที่อ่อนช้อย ที่เห้นขยุกขยิกนั้นไม่ใช่เกิดจากพิมพ์นะครับ แต่เป้นการหดตัวหลังจากที่ความชื้นระเหยออกไป ผิวเลยร่นล่มลงไป เลยแลดูขยุกขยิกครับ
พระสมเด็จวัดระฆัง |
หลุบยุบที่ลูกศรชี้ ปากรูจะแคบกว่าหลุมที่อยุ่ข้างในครับ หลักการนี้เอาไปใช้ดูพระเนื้อดินได้ครับ ตอนแรกผมคิดว่าเป้นแมลงกัดครับ แต่พอส่องดูดีดีๆมันเป้นการยุบตัวครับ เดี๋ยวจะให้เห็นตรงจุดที่เหมือนกับการวิวัฒนาการก่อนที่จะเกิดเจ้าหลุมนี้ขึ้นครับ
พระสมเด็จวัดระฆัง |
เห็นพื้นที่ที่ลูกศรชี้ตรงด้านซ้ายของพระพักต์หรือไม่ เห้นมั้ยครับรอยที่กำลังจะยุบตัวลงไป โอ้ว..เห็นลูกศรสีแดงที่ชี้ตรงบริเวณคางหรือไม่ นี่ก็เป็นจุดธรรมชาติอย่างนึงที่ใช้พิจารณาพระสมเด็จด้วยเช่นกันครับ อาจารย์ทั้งหลายเคยบอกว่าอยากได้พระสมเด็จเงินล้านหมั่นจำพิมพ์ อยากได้พระสมเด็จถูกหมั่นจำเนื้อหาและธรรมชาติครับ
พระสมเด็จวัดระฆัง |
ส่วนนี้ตรงบริเวณฐานครับแกะได้โค้งตวัดสวยงามดูอ่อนช้อยนุ่มนวลตาครับ
พระสมเด็จวัดระฆัง |
พระสมเด็จวัดระฆัง |
ส่วนนี้ด้านหลังครับ คราบตังอิ้วที่เริ่มก่อเป็นสนิมพระน้อยๆ แล้วให้ดูตรงรอยปาดด้านหลังเรียบร้อยเนียน มีร่องรอยของการครูดไถลขอวัสดุยามโดยปาดลากไปตามพื้นผิวครับ
วันนี้ขอจบการคุยเฟื่องเรื่องพระของผมเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ขอบคุณที่ติดตามแล้วพบกันใหม่ครับ
วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่15 somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่15 somdej wat rakang amulet
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมเอาพระสมเด็จวัดระฆังมาให้ชมกันอีกแล้วครับ องค์นี้ผมชอบมากเลยนะ เป็นพิมพ์ที่เค้าตัดกรอบเผื่อไว้เล็กน้อยเพื่อหุ้มขอบด้วยแผ่นเงินเอาไว้อาราธนาติดตัวไปไหนได้สะดวก เพราะสมัยก่อนยังไม่มีตลับพระครับ นับว่าทันสมัยเลยทีเดียวนะสมัยนั้น พระลักษณะแบบนี้คนเก่าคนแก่เรียกกันติดปากว่าพิมพ์กรอบกระจก จะเห็นพิมพ์สวยเอาการอยู่ทีเดียว และดูเนื้อหามวลสารจัดจ้านมีของดีดี ที่เป็นวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์มากมาย แสดงว่าเจ้าของพระคนแรกต้องไม่ธรรมดาครับ ถ้าไม่สนิทชิดเชื้อกับทางวัดระฆังจริงๆคงไม่มีทาง ผมนั่งส่องๆดูมีมวลสารหลากหลายชนิดมากและครบสูตรที่ต้องมีของวัดระฆังด้วย แล้วผมก็ยังไม่เคยเห็นพระเหมือนองค์นี้เป็นองค์ที่2!!! จึงมั่นใจในความแท้ส่วนตัว พระองค์นี้ปกติจะไม่ร้อนทั้งๆที่อุณหภูมิห้องมันร้อน แต่เวลาอยุ่ห้องแอร์กลับเก็บความเย้นไว้นานพอสมควร ดมกลิ่นแล้วคล้ายกลิ่นน้ำฝนอับๆครับ
ถ่ายซูมองค์พระด้านหน้าครับ จะเห็นผิวบางกึ่งใสออกเป็นเยื่อเป็นพระใช้จัดมา พระพักต์รียาว ปลายพระเกศเรียวสะบัด หัวไหล่ด้านขวามือเรายกขึ้นเล็กน้อย ซุ้มโค้งรับกันทางด้านซ้ายมือสูงและทำมุมเข้าหาพระเกศมากกว่าทางด้านขวามือเล็กน้อย
ต่อมาครับ พื้นที่ภายในซุ้มเทลาเข้าหาองค์พระเล็กน้อย ติดพระศอรำไร ซอกแขนด้านขวามือเราลึกชัดเจน การวาดวงแขนดูสง่าแต่นุ่มนวลสบายตา มีรอยแคร็กแยกเล็กน้อยตรงพื้นที่องค์พระด้านขวาตรงส่วนที่มีมวลสารที่แตกต่างตรงบริเวณนั้น
ตรงส่วนฐานทั้งสาม แกะได้ขนาดสวยงาม เว้นช่องไฟได้ถูกต้องสอดรับประสานกันกับพระชงค์ขององค์พระอย่างงดงาม จะแลเห็นชายจีวรที่เชื่อมต่อโค้งลงมาเล็กน้อย
มวลสารขาวขุ่นแต่โปร่งแสงที่เค้าว่าเป็นทีเด็ดของพระสมเด็จครับ ปกติจะอันไม่ใหญ่เท่านี้ องคืนี้ได้ดีจริงๆแถมเสริมตรงฐานพอดี
ด้านนี้ถ่ายจากข้างหลังครับ เป็นแบบหลังเรียบแบนทื่อๆ ปาดเก้บเรียบร้อยอย่างดี เนื้อแลคล้ายหินอ่อน มีรอยช้ำผ่านการใช้เป้นจุดๆจ้ำเสริมเสน่ห์ ใครได้ส่องอร่อยตาไม่รู้ลืมเลยหละครับ
รูปนี้ถ่ายผ่านกล้องจุลทัศน์ครับสีเพี้ยนไปหน่อย แต่พอใช้ได้ จะเห็นว่าผิวที่ชัดเจน ที่เห็นเส้นดำๆนั่นอาจจะเป็นพระเกศา (เส้นพระเจ้าครับ) เป็นเส้นผมของเบื้องสูง หรือของสมเด็จโตเองอันนี้ก็สุดแท้จะคาดเดา
ขอบคุณทุกท่านมากครับที่ติดตาม
somdej wat rakang amulet |
somdej wat rakang amulet |
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมเอาพระสมเด็จวัดระฆังมาให้ชมกันอีกแล้วครับ องค์นี้ผมชอบมากเลยนะ เป็นพิมพ์ที่เค้าตัดกรอบเผื่อไว้เล็กน้อยเพื่อหุ้มขอบด้วยแผ่นเงินเอาไว้อาราธนาติดตัวไปไหนได้สะดวก เพราะสมัยก่อนยังไม่มีตลับพระครับ นับว่าทันสมัยเลยทีเดียวนะสมัยนั้น พระลักษณะแบบนี้คนเก่าคนแก่เรียกกันติดปากว่าพิมพ์กรอบกระจก จะเห็นพิมพ์สวยเอาการอยู่ทีเดียว และดูเนื้อหามวลสารจัดจ้านมีของดีดี ที่เป็นวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์มากมาย แสดงว่าเจ้าของพระคนแรกต้องไม่ธรรมดาครับ ถ้าไม่สนิทชิดเชื้อกับทางวัดระฆังจริงๆคงไม่มีทาง ผมนั่งส่องๆดูมีมวลสารหลากหลายชนิดมากและครบสูตรที่ต้องมีของวัดระฆังด้วย แล้วผมก็ยังไม่เคยเห็นพระเหมือนองค์นี้เป็นองค์ที่2!!! จึงมั่นใจในความแท้ส่วนตัว พระองค์นี้ปกติจะไม่ร้อนทั้งๆที่อุณหภูมิห้องมันร้อน แต่เวลาอยุ่ห้องแอร์กลับเก็บความเย้นไว้นานพอสมควร ดมกลิ่นแล้วคล้ายกลิ่นน้ำฝนอับๆครับ
somdej wat rakang amulet |
ถ่ายซูมองค์พระด้านหน้าครับ จะเห็นผิวบางกึ่งใสออกเป็นเยื่อเป็นพระใช้จัดมา พระพักต์รียาว ปลายพระเกศเรียวสะบัด หัวไหล่ด้านขวามือเรายกขึ้นเล็กน้อย ซุ้มโค้งรับกันทางด้านซ้ายมือสูงและทำมุมเข้าหาพระเกศมากกว่าทางด้านขวามือเล็กน้อย
somdej wat rakang amulet |
ต่อมาครับ พื้นที่ภายในซุ้มเทลาเข้าหาองค์พระเล็กน้อย ติดพระศอรำไร ซอกแขนด้านขวามือเราลึกชัดเจน การวาดวงแขนดูสง่าแต่นุ่มนวลสบายตา มีรอยแคร็กแยกเล็กน้อยตรงพื้นที่องค์พระด้านขวาตรงส่วนที่มีมวลสารที่แตกต่างตรงบริเวณนั้น
somdej wat rakang amulet |
somdej wat rakang amulet |
มวลสารขาวขุ่นแต่โปร่งแสงที่เค้าว่าเป็นทีเด็ดของพระสมเด็จครับ ปกติจะอันไม่ใหญ่เท่านี้ องคืนี้ได้ดีจริงๆแถมเสริมตรงฐานพอดี
somdej wat rakang amulet |
somdej wat rakang amulet |
ด้านนี้ถ่ายจากข้างหลังครับ เป็นแบบหลังเรียบแบนทื่อๆ ปาดเก้บเรียบร้อยอย่างดี เนื้อแลคล้ายหินอ่อน มีรอยช้ำผ่านการใช้เป้นจุดๆจ้ำเสริมเสน่ห์ ใครได้ส่องอร่อยตาไม่รู้ลืมเลยหละครับ
รูปนี้ถ่ายผ่านกล้องจุลทัศน์ครับสีเพี้ยนไปหน่อย แต่พอใช้ได้ จะเห็นว่าผิวที่ชัดเจน ที่เห็นเส้นดำๆนั่นอาจจะเป็นพระเกศา (เส้นพระเจ้าครับ) เป็นเส้นผมของเบื้องสูง หรือของสมเด็จโตเองอันนี้ก็สุดแท้จะคาดเดา
ขอบคุณทุกท่านมากครับที่ติดตาม
วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
พระสมเด็จเกศไชโย องค์ที่1 somdej ked chiyo amulet
พระสมเด็จเกศไชโย องค์ที่1 somdej ked chiyo amulet
สวัสดีครับ วันนี้เอาพระคุณลุงข้างบ้านมาให้ดูกันครับ ท่านเมตตาให้ไปชมพระในบ้าน ก้มีพระหลายๆองค์เลย แต่สะดุดตาอยู่หลายองค์เลยถ่ายมาหลายองค์เลยครับ เดี๋ยวค่อยๆทยอยลงครับ ที่ผมถูกใจพระองค์นี้คือ พระไม่ถูกพิมพ์ครับแต่ดูสวยดีและแลดูเก่า เลยอยากให้เพื่อนๆหลายๆคนได้ลองชมครับ
ส่วนตัวแล้วชอบตรงเนื้อพระที่มีผิวแบบสตุระยิบแบบนี้ครับ ส่องแล้วมันส์นัยตามาก ก็ไม่รู้ซินะของแบบนี้แล้วแต่รสนิยม
สโลแกนของการเล่นพระที่ผมยึดถือคือ เช่าพระปลอมเพราะอ่อนประสบการณ์ดีกว่าปล่อยพระแท้ไปแบบไร้ราคา เอาง่ายๆครับถ้าเราศึกษาพระเครื่องหลายตำรา แบบทฤษฎีจะให้ได้พระที่อ่านมาตามหนังสือคงงงและยากกว่า จึงต้องหมั่นไปดูพระของแท้ ซึ่งเริ่มพระหลักร้อยหลักพันนี่แหละครับเอาที่เราชอบจริงๆเลย อ่านดูประวัติแล้วเข้าท่าเข้าทาง ดีกว่าฝันเฟื่องกับพระเป็นล้านๆนะ ซึ่งนั่นคือความฝันส่วนความฝัน แต่สายเราที่ชอบจริงๆก็ควรจะมี ถ้าเราชอบเราเล่นหาพระสมเด็จตามความสามารถในการหาเงินมาได้ อย่างหลักร้อยหลักพัน ดูแล้ว ส่องแล้วเราชอบ เรามีความสุข เรามีกำลังใจในการทำงานหาเงิน ผมเชื่อว่าต่อให้นั้นเก๊จริงๆเราก็ยังชอบ แต่ถ้าเราไม่ได้ชอบจริงๆจะเอาแต่ของแท้ เกิดฟลุ๊คโชคดีได้ของแท้มาหลักพัน แต่เพราะความหูเบาแถมยังคิดชั่วอยากปล่อยพระเก๊ให้ผู้อื่นต่อ ประกฎว่าไม่นานกลายเป็นมีคนซื้อขายพระองค์นั้นเป็นล้าน คงเจ็บใจกว่ามากจริงมั้ยครับ การซื้อขายพระปวดหัวมากครับ เซียนโดนยิงตายก็เยอะ คนซื้องี่เง่าโดนหลอกต้มแล้วเอาพระไปคืนแบบไม่ดูสถานการณ์ก็โดนดีเยอะนะเท่าที่ได้ข่าวพรรคพวกในวงการ จะอยู่ในวงการนี้ต้องอยู่เป็น แต่ถ้าเอาหนุกๆชิวๆ พอได้ค่าเบียร์ ค่าเดินทางสังสรรค์ก้ว่ากันตามแบบนี้ไปครับ 555+
หลังๆมานี่เริ่มชอบซูม แต่ปัญญามีแค่นี้ ไอ้กล้องที่มาโครซูมได้หรูๆของผมก็ชัตเตอร์เจ๊งไปแล้ว ไปซ่อมเค้าบอกเฮียซื้อใหม่ อืม....รุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้ก็เยอะนะรอดูไปก่อน กะเอาแค่20ล้านพิกเซล มาโครลึกๆชัดๆก็พอ
เส้นสายองค์พระคมเรียวสะบัดงดงาม มีความจัดของพระเป็นธรรมชาติ ตังอิ้วผุดผิวเหมือนเนื้องอกเนื้อย้อย มีราขาวคลุมยอดผิวบางเบาสลับพองาม
พระสมเด็จเกศไชโย |
พระสมเด็จเกศไชโย |
สวัสดีครับ วันนี้เอาพระคุณลุงข้างบ้านมาให้ดูกันครับ ท่านเมตตาให้ไปชมพระในบ้าน ก้มีพระหลายๆองค์เลย แต่สะดุดตาอยู่หลายองค์เลยถ่ายมาหลายองค์เลยครับ เดี๋ยวค่อยๆทยอยลงครับ ที่ผมถูกใจพระองค์นี้คือ พระไม่ถูกพิมพ์ครับแต่ดูสวยดีและแลดูเก่า เลยอยากให้เพื่อนๆหลายๆคนได้ลองชมครับ
ส่วนตัวแล้วชอบตรงเนื้อพระที่มีผิวแบบสตุระยิบแบบนี้ครับ ส่องแล้วมันส์นัยตามาก ก็ไม่รู้ซินะของแบบนี้แล้วแต่รสนิยม
สโลแกนของการเล่นพระที่ผมยึดถือคือ เช่าพระปลอมเพราะอ่อนประสบการณ์ดีกว่าปล่อยพระแท้ไปแบบไร้ราคา เอาง่ายๆครับถ้าเราศึกษาพระเครื่องหลายตำรา แบบทฤษฎีจะให้ได้พระที่อ่านมาตามหนังสือคงงงและยากกว่า จึงต้องหมั่นไปดูพระของแท้ ซึ่งเริ่มพระหลักร้อยหลักพันนี่แหละครับเอาที่เราชอบจริงๆเลย อ่านดูประวัติแล้วเข้าท่าเข้าทาง ดีกว่าฝันเฟื่องกับพระเป็นล้านๆนะ ซึ่งนั่นคือความฝันส่วนความฝัน แต่สายเราที่ชอบจริงๆก็ควรจะมี ถ้าเราชอบเราเล่นหาพระสมเด็จตามความสามารถในการหาเงินมาได้ อย่างหลักร้อยหลักพัน ดูแล้ว ส่องแล้วเราชอบ เรามีความสุข เรามีกำลังใจในการทำงานหาเงิน ผมเชื่อว่าต่อให้นั้นเก๊จริงๆเราก็ยังชอบ แต่ถ้าเราไม่ได้ชอบจริงๆจะเอาแต่ของแท้ เกิดฟลุ๊คโชคดีได้ของแท้มาหลักพัน แต่เพราะความหูเบาแถมยังคิดชั่วอยากปล่อยพระเก๊ให้ผู้อื่นต่อ ประกฎว่าไม่นานกลายเป็นมีคนซื้อขายพระองค์นั้นเป็นล้าน คงเจ็บใจกว่ามากจริงมั้ยครับ การซื้อขายพระปวดหัวมากครับ เซียนโดนยิงตายก็เยอะ คนซื้องี่เง่าโดนหลอกต้มแล้วเอาพระไปคืนแบบไม่ดูสถานการณ์ก็โดนดีเยอะนะเท่าที่ได้ข่าวพรรคพวกในวงการ จะอยู่ในวงการนี้ต้องอยู่เป็น แต่ถ้าเอาหนุกๆชิวๆ พอได้ค่าเบียร์ ค่าเดินทางสังสรรค์ก้ว่ากันตามแบบนี้ไปครับ 555+
หลังๆมานี่เริ่มชอบซูม แต่ปัญญามีแค่นี้ ไอ้กล้องที่มาโครซูมได้หรูๆของผมก็ชัตเตอร์เจ๊งไปแล้ว ไปซ่อมเค้าบอกเฮียซื้อใหม่ อืม....รุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้ก็เยอะนะรอดูไปก่อน กะเอาแค่20ล้านพิกเซล มาโครลึกๆชัดๆก็พอ
พระสมเด็จเกศไชโย |
พระสมเด็จเกศไชโย |
พระสมเด็จเกศไชโย |
เส้นสายองค์พระคมเรียวสะบัดงดงาม มีความจัดของพระเป็นธรรมชาติ ตังอิ้วผุดผิวเหมือนเนื้องอกเนื้อย้อย มีราขาวคลุมยอดผิวบางเบาสลับพองาม
วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่14 somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่14 somdej wat rakang amulet
สวัสดีครับ วันนี้เอาพระสมเด็จของลุงมาให้ชมกันอีกแล้ว เล่นแค่ชอบ แท้เองกันไปครับ 555+ ชอบของเราก็พอครับ คุณค่าทางจิตใจก็ก่อเกิด จะแท้จะเก๊ถ้าดวงถึงฆาตไม้จิ้มฟันแทงเหงือกยังตายครับ ไม่ได้หลบหลู่ แต่นี่คือสัจธรรมครับ เรานับถือพระพุทธศาสนาต้องไม่งมงาย วัตถุมงคลเป็นสิ่งช่วยเสริม ซึ่งต้องมีแรงกรรมเป็นตัวเหนี่ยวนำให้ชีวิตประสบพบพา เอาละเดี๋ยวจะออกทะเลกันไปไกลครับ อิอิ
พระสมเด็จวัดระฆังองค์นี้ถูกใช้จนกร่อนในหลายจุด เผยให้เห็นผิวสมเด็จเป็นชั้นต่างๆ เป็นพระที่ผมว่าทำเก๊ยากนะ แต่เซียนจะตีเก๊ก็ตามใจครับ เราจะไม่ทำให้ทุกคนบอกว่าใช่ไม่ได้ ยกเว้นเงินถึงก็เอาไปลงโฆษณาหน้าปก ลงชื่อ นายพล นักธุรกิจกันไป 2-3 เล่มเดี๋ยวก็แท้ดูง่ายเอง จริงรึเปล่าครับ? อย่างว่านะการสื่อสารเดี่ยวนี้มันถึงกันทั่วโลกก็ใช้จุดนี้ให้เป้นประโยชน์ก็แล้วกันเนอะ ผมเองก็ได้เรียนรู้จากการเข้ามาดูในเน็ตได้มากมายเหมือนกัน เหมือนเป็นกบออกมานอกกะลา แต่แอบเหน็บกะลาติดตัวไปด้วยเสมอนะ 555+
พระสมเด็จองค์นี้ยังพอให้เห็นเค้าพิมพ์ ซึ่งน่าจะเป็นพิมพ์ฐานแซมครับ เป้นพิมพ์ยอดฮิตนะเออ.. เพราะฐานแซม ช่วยหนุนนำค้ำชู ดวงชะตา ธุรกิจ และตำแหน่งการงานนะ ในความเชื่อของคนสมัยก่อน
พระสมเด็จองค์นี้ ลงรักดำปิดทองล่องชาดเอาไว้ สุดยอดมั้ยละครับ เนื้อค่อนข่างหนึก มีผิวนวลกระจ่างคล้าย เล็บ คล้ายฟัน
ในส่วนของเนื้อพระองค์นี้บดผสมหยกลงไปด้วย และผงทองเล็กมากในนี้ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยได้เจอเศษหยกผสมหลายจุดอย่างนี้ ความเห็นส่วนตัวนะองค์นี้ดูแล้วเหมือนเหมาะกับคนจีนนะ คนจีนชอบหยกอยุ่แล้ว ส่วนมากทำการค้าการขายอีกก็เหมาะนะ
วันนี้ขอจบการโขว์แต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม Good night ครับ
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
สวัสดีครับ วันนี้เอาพระสมเด็จของลุงมาให้ชมกันอีกแล้ว เล่นแค่ชอบ แท้เองกันไปครับ 555+ ชอบของเราก็พอครับ คุณค่าทางจิตใจก็ก่อเกิด จะแท้จะเก๊ถ้าดวงถึงฆาตไม้จิ้มฟันแทงเหงือกยังตายครับ ไม่ได้หลบหลู่ แต่นี่คือสัจธรรมครับ เรานับถือพระพุทธศาสนาต้องไม่งมงาย วัตถุมงคลเป็นสิ่งช่วยเสริม ซึ่งต้องมีแรงกรรมเป็นตัวเหนี่ยวนำให้ชีวิตประสบพบพา เอาละเดี๋ยวจะออกทะเลกันไปไกลครับ อิอิ
พระสมเด็จวัดระฆังองค์นี้ถูกใช้จนกร่อนในหลายจุด เผยให้เห็นผิวสมเด็จเป็นชั้นต่างๆ เป็นพระที่ผมว่าทำเก๊ยากนะ แต่เซียนจะตีเก๊ก็ตามใจครับ เราจะไม่ทำให้ทุกคนบอกว่าใช่ไม่ได้ ยกเว้นเงินถึงก็เอาไปลงโฆษณาหน้าปก ลงชื่อ นายพล นักธุรกิจกันไป 2-3 เล่มเดี๋ยวก็แท้ดูง่ายเอง จริงรึเปล่าครับ? อย่างว่านะการสื่อสารเดี่ยวนี้มันถึงกันทั่วโลกก็ใช้จุดนี้ให้เป้นประโยชน์ก็แล้วกันเนอะ ผมเองก็ได้เรียนรู้จากการเข้ามาดูในเน็ตได้มากมายเหมือนกัน เหมือนเป็นกบออกมานอกกะลา แต่แอบเหน็บกะลาติดตัวไปด้วยเสมอนะ 555+
พระสมเด็จองค์นี้ยังพอให้เห็นเค้าพิมพ์ ซึ่งน่าจะเป็นพิมพ์ฐานแซมครับ เป้นพิมพ์ยอดฮิตนะเออ.. เพราะฐานแซม ช่วยหนุนนำค้ำชู ดวงชะตา ธุรกิจ และตำแหน่งการงานนะ ในความเชื่อของคนสมัยก่อน
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
พระสมเด็จองค์นี้ ลงรักดำปิดทองล่องชาดเอาไว้ สุดยอดมั้ยละครับ เนื้อค่อนข่างหนึก มีผิวนวลกระจ่างคล้าย เล็บ คล้ายฟัน
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
ในส่วนของเนื้อพระองค์นี้บดผสมหยกลงไปด้วย และผงทองเล็กมากในนี้ ซึ่งปกติจะไม่ค่อยได้เจอเศษหยกผสมหลายจุดอย่างนี้ ความเห็นส่วนตัวนะองค์นี้ดูแล้วเหมือนเหมาะกับคนจีนนะ คนจีนชอบหยกอยุ่แล้ว ส่วนมากทำการค้าการขายอีกก็เหมาะนะ
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
สมเด็จวัดระฑัง พิมพ์ฐานแซม |
วันนี้ขอจบการโขว์แต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่ติดตาม Good night ครับ
วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
พระสมเด็จวัดระฆัง - พระผงที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
พระสมเด็จวัดระฆัง - พระผงที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ถ้าจะเอ่ยถึงพระเครื่อง หลายท่านคิดถึงอะไรกันบ้างครับ? ก็คงคิดกันไปได้หลากหลายกันเลย แต่ที่จะน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ก็น่าจะเป็น "พระสมเด็จ" นะครับ สำหรับผมนะ ถ้าเป็นตอนเด็กก็คงเข้าใจว่าหากพระที่เป็นสีเหลี่ยมก้อนๆเป็นปูนนั่นแหละคือพระสมเด็จ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "พระสมเด็จ" ใครเป็นผู้สร้าง หรือเรียกพระลักษณะนี้ทั้งหมดเป็นพระสมเด็จ
แต่ในที่จริงแล้วพระลักษณะนี้ มีการสร้างเกิดขึ้นมากมายหลายวัด หลายเกจิอาจารย์ แต่ที่จากการสืบค้นมาพระสมเด็จที่คนกล่าวถึงและนิยมสูงสุดก็คือ พระสมเด็จวัดระฆัง ที่ปลุกเสกและสร้างส่วนผสมมวลสารโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ประวัติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ประวัติพอสังเขป
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1(นามก่อนบรรพชา: โต)
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) เป็นพระสงฆ์มหานิกาย
เป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย ท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ 4-5
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่
ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างเขมร ลาว เป็นต้น
และนอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคลเนื้อผง ที่โดยทั่วไป
เรียกว่า "พระสมเด็จ" ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล 1 ใน 5 ของประเทศไทย โดย อ.ตรียัมปวาย (พ.อ. ผจญ กิตติประวัติ) ประมาณปี 2490
และมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคานับล้านบาท ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่าน
จากรูปที่เห็น พระเกจิอาจารย์อีกสองรูปนี้ เป็นบุคคลที่สำคัญมากในการสืบค้นตามล่าหาตำนานพระสมเด็จอย่างแท้จริง ทำให้เรารู้ว่ายังมีพระสมเด็จ ที่สมเด็จโตสร้างไว้ในที่ต่างๆ และมีมากมายหลายพิมพ์ทรง และในต่างวาระกัน เรื่องการศึกษาพระสมเด็จในทุกวันนี้ยังไม่ถึงที่สุดครับ
อยากศึกษาอย่างสนุก ไม่งมงาย ราคาไม่แพง ตามความชอบใจ ต้องศึกษาเยอะๆครับ อย่างน้อยๆ2เล่มนี้ควรจะต้องมี
ถ้าจะเอ่ยถึงพระเครื่อง หลายท่านคิดถึงอะไรกันบ้างครับ? ก็คงคิดกันไปได้หลากหลายกันเลย แต่ที่จะน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ก็น่าจะเป็น "พระสมเด็จ" นะครับ สำหรับผมนะ ถ้าเป็นตอนเด็กก็คงเข้าใจว่าหากพระที่เป็นสีเหลี่ยมก้อนๆเป็นปูนนั่นแหละคือพระสมเด็จ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "พระสมเด็จ" ใครเป็นผู้สร้าง หรือเรียกพระลักษณะนี้ทั้งหมดเป็นพระสมเด็จ
แต่ในที่จริงแล้วพระลักษณะนี้ มีการสร้างเกิดขึ้นมากมายหลายวัด หลายเกจิอาจารย์ แต่ที่จากการสืบค้นมาพระสมเด็จที่คนกล่าวถึงและนิยมสูงสุดก็คือ พระสมเด็จวัดระฆัง ที่ปลุกเสกและสร้างส่วนผสมมวลสารโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ประวัติ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) |
ประวัติพอสังเขป
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) เกิดในสมัยรัชกาลที่ 1(นามก่อนบรรพชา: โต)
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) เป็นพระสงฆ์มหานิกาย
เป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย ท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ 4-5
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่
ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างเขมร ลาว เป็นต้น
และนอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคลเนื้อผง ที่โดยทั่วไป
เรียกว่า "พระสมเด็จ" ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล 1 ใน 5 ของประเทศไทย โดย อ.ตรียัมปวาย (พ.อ. ผจญ กิตติประวัติ) ประมาณปี 2490
และมีราคาซื้อขายในปัจจุบันต่อองค์เป็นราคานับล้านบาท ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่าน
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) |
จากรูปที่เห็น พระเกจิอาจารย์อีกสองรูปนี้ เป็นบุคคลที่สำคัญมากในการสืบค้นตามล่าหาตำนานพระสมเด็จอย่างแท้จริง ทำให้เรารู้ว่ายังมีพระสมเด็จ ที่สมเด็จโตสร้างไว้ในที่ต่างๆ และมีมากมายหลายพิมพ์ทรง และในต่างวาระกัน เรื่องการศึกษาพระสมเด็จในทุกวันนี้ยังไม่ถึงที่สุดครับ
อยากศึกษาอย่างสนุก ไม่งมงาย ราคาไม่แพง ตามความชอบใจ ต้องศึกษาเยอะๆครับ อย่างน้อยๆ2เล่มนี้ควรจะต้องมี
หนังสือพระสมเด็จ ของ อ.ตรียัมปวาย |
หนังสือพระสมเด็จ ของ อ.แฉล้ม โชติช่วง และ อ.มนัส ยอขันธ์ |
วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่13 somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่13 somdej wat rakang amulet
สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกคน วันนี้นำพระสมเด็จวัดระฆังแท้ๆอีกสไตล์นึงนะครับ จริงแท้แน่นอนยังไงพิจารณาเอาเอง อยุ่ที่ว่าเอาตำราไหนเทียบ แต่สุดท้ายอยุ่ที่คนชอบครับ แต่ถ้ามีการซื้อขายกันถ้าเป็นพระสมเด็จละก็ต้องแท้แบบสังคมยอมรับครับ จะมาเล่นแบบแนวผมไม่ได้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว มีองค์ไหน่แท้มั่ง หรือเก๊มั่ง เพราะเกิดไม่ทัน ก็อาศัยพระที่มีที่บ้าน ของบ้านญาติ ของบ้านเพื่อน และของคนที่เค้ารวยๆที่เค้ายินดีชวนไปนั่งส่องนั่งดู แล้วก็ซื้อตำรับตำราหลายๆสายมารวบรวมข้อมูลหาจุดร่วม และข้อแตกต่างๆ เผื่อ...จะได้พระหลุด ไม่ใช่พระหลุดล่วงนะครับ555+ แบบนั้นเสียดายพระตายเลยครับ นั่นคือว่าตามที่สืบมามีพระสมเด็จที่ส่วนกลางไม่เล่นกันนั้น (วิเคราะห์แล้วถ้าเล่น พระจะมีเยอะเกิน แล้วคนที่จะซื้อองค์ละเป็นล้านๆจะมีกี่คนเชียวในเมืองไทย คงมีคนเอาพระมาปล่อยมากกว่าขอเช่าแน่ครับ) ยังพอมีอยู่ แล้วนับวันก็จะมีหลายๆพิมพ์ค่อยๆอวดโฉม และถูกพบเจอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเดี่ยวนี้อะไรมันก็เชื่อมต่อถึงกันได้หมด ขนาดพระสมเด็จของคนที่อยู่อเมริกาเรายังได้เห็นเลยจริงมั้ยครับ?
ในเมื่อเราเสาะหาเพราะความชอบ เป็นความสนุกท้าทายเหมือนค้นหาสมบัติ และมีการเช่าหาเปลี่ยนมือกันไม่ยากนัก หลักหมื่นถ้าพระฟอรืมแน่นๆ ก็ไม่ยากที่จะออกตัวกันละครับ โดยเฉพาะหลังๆพระพิมพ์เก่าๆไม่ค่อยได้เห็นกันมากแล้วคิดว่าเจอคนที่เค้าศึกษาอย่างจริงจังและมีกำลังทรัพย์ เก็บสะสมกันจะแทบไม่เหลือแล้ว น่าภูมิใจที่พระสมเด็จแบบนี้มีทั้งดอกเตอร์ ศาตราจารย์ นายแพทย์ นายพล ต่างก็มีไว้ในครอบครองอยุ่ไม่น้อย ยังไงก็ไม่เหงาหละครับสำหรับสายเล่นพระแนวนี้ อย่างที่เค้าเปรียบเทียบให้ฟังว่า อยากได้ปลาถูกก็ให้ไปจับเองครับ ให้คนอื่นจับก้ต้องเสียค่าเวลา เสียค่าแรงให้กับเค้าไปจริงมั้ย?
เอาละครับมาพูดถึงพระสมเด้จองค์นี้กันครับ ดูจากพิมพ์แล้วเป็นพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่แม่พิมพ์อกกระบอกพิมพ์หนึ่ง ที่ไม่ใช่ของหลวงวิจารณ์เจียรนัยอย่างแน่นอน แต่อาจเป็นแม่พิมพ์ก่อนหลวงท่านสร้าง เพราะเนื่องจากเนื้อหาที่ผสมเนื้อพระออกแนวนุ่มนวลกว่าของทางยุคหลัง องค์นี้ผสมปูนน้อยแทบจะเรียกว่าผงล้วนเลยทีเดียว เพราะช่วงยุคแรกๆ ตำราว่าจะเน้นผงพุทธคุณไม่อั้น ยุคหลังๆสัดส่วนการผสมจะมีปูนกับตังอิ้วเสริมเข้ามามาก ทำให้พระยุคแรกๆไม่ค่อยทน มีแตก ป่น หัก ตามกาลเวลาไปมาก โดยเฉพาะสมัยก่อนการสัญจรก็เป็นทางน้ำซะส่วนใหญ่ พระตกน้ำก็มีเป้นอันมาก ขนาดผมตอนเด็กใช้สร้อยสแตนเลส พระยังขาดหายอยุ่บ่อยๆ สมัยก่อนใช้เชือกหนัง เชือกปอมั่งไม่ขาดก็คงไม่ได้ ซ้ำบางคนห่อใส่ผ้า การอาราธนาติดตัวไปใช้ก็สุดแล้วแต่ละคนละครับ องคืนี้แต่แรกมีรักติดมาด้วยแต่ผมค่อยๆลอกออกครับ จุดไหนไม่กล้าเสียงก็เบามือ ดีนะผิวไม่เสียมาก แต่จากที่สังเกตุนะ พระสมเด็จมักจะลงรักด้านหน้าหนาๆไว้ด้านหลังอาจมีบ้างหรือไม่มีเลยเลยก็ได้ แล้วมีจุดสังเกตุอีกอย่างนึงของเส้นสายองค์พระจะขยุกขยิกไม่เหมือนกันนะครับ เพราะไม่ได้เกิดจากพิมพ์แต่เกิดจากการแกะพระออกจากพิมพ์ส่วนหนึ่ง กับการหดตัวของพระไม่เหมือนกัน จะเหมือนบางจุดแต่ไม่เหมือนหมดซะทีเดียวนะครับ ถ้าเหมือนหมดแสดงว่าต้องมีองค์ไหนที่เก๊ เฮ้ย...หรือเก๊ทั้ง2เลย 555+ ตรงส่วนของแม่พิมพ์จะเห็นว่าทำไมมีเส้นกรอบ2ชั้น ก็ง่ายๆครับ แม่พิมพ์ยุคแรกๆไม่ได้ปราณีตมากนัก เส้นที่เห็นเป็นเส้นกะขนาดครับ คร่าวๆ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ก็ถูกไปตีความกันเองว่าถอดพิมพ์มั่งละ ก็อย่างว่าถ้าคนทำก็ไม่รู้นี่ครับว่าลูกหลานในอนาคตจะมีกฎเกณฑ์ในความนิยมอย่างไร
*** พูดถึงความนิยมนี่ ตอนเด็กๆผู้ใหญที่สะสมพระก็มักชอบอวดพิมพ์แปลกๆ หรือมีขนาดใหญ่ๆ หรือทำจากวัตถุพิเศษ แบบ เนื้อชิน ทองคำ เงิน อะไรประมาณนี้
มาดูเนื้อหามั่งครับ เนื้อแบบนี้คนเก่าๆเค้าบอกเนื้อปูนุ่ม หรือผงล้วนๆ มีความนุ่มหนึก สอดผสานกับพิมพ์พระทำให้ดูแล้วสบายตา สบายใจ ทำให้ผมมโนได้เลยที่เค้าเคยกล่าววิธีการทำผงพุทธคุณทั้ง5 ที่ว่าเขียนๆลบๆแล้วผสมกับน้ำว่านน้ำมนตืต่างๆแล้วปั้นเป็นแท่งๆไว้ เนื้อจึงได้เนียนละเอียดยิบปานนี้ แต่ถึงอย่างไรเวลาส่องเนื้อหาก็อย่าลืมส่องหามวลสารอื่นๆภาคบังคับด้วยนะครับ ยังไงก้ต้องมีเพียงแต่จะมีมากมีน้อย เช่นผงดำ ผงเทา ผงแดง ผงเขียว ทรายเงิน ทรายทอง เป็นต้น นะครับ ไว้โอกาสหน้าผมจะหารายละเอียดในส่วนนี้มาเล่าสู่กันฟังสไตล์กันเองในคราวต่อไปครับ ขอบคุณมากที่ติดตามครับ
พระสมเด็จวัดระฆัง Somdej rakang |
พระสมเด็จวัดระฆัง Somdej rakang |
สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกคน วันนี้นำพระสมเด็จวัดระฆังแท้ๆอีกสไตล์นึงนะครับ จริงแท้แน่นอนยังไงพิจารณาเอาเอง อยุ่ที่ว่าเอาตำราไหนเทียบ แต่สุดท้ายอยุ่ที่คนชอบครับ แต่ถ้ามีการซื้อขายกันถ้าเป็นพระสมเด็จละก็ต้องแท้แบบสังคมยอมรับครับ จะมาเล่นแบบแนวผมไม่ได้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว มีองค์ไหน่แท้มั่ง หรือเก๊มั่ง เพราะเกิดไม่ทัน ก็อาศัยพระที่มีที่บ้าน ของบ้านญาติ ของบ้านเพื่อน และของคนที่เค้ารวยๆที่เค้ายินดีชวนไปนั่งส่องนั่งดู แล้วก็ซื้อตำรับตำราหลายๆสายมารวบรวมข้อมูลหาจุดร่วม และข้อแตกต่างๆ เผื่อ...จะได้พระหลุด ไม่ใช่พระหลุดล่วงนะครับ555+ แบบนั้นเสียดายพระตายเลยครับ นั่นคือว่าตามที่สืบมามีพระสมเด็จที่ส่วนกลางไม่เล่นกันนั้น (วิเคราะห์แล้วถ้าเล่น พระจะมีเยอะเกิน แล้วคนที่จะซื้อองค์ละเป็นล้านๆจะมีกี่คนเชียวในเมืองไทย คงมีคนเอาพระมาปล่อยมากกว่าขอเช่าแน่ครับ) ยังพอมีอยู่ แล้วนับวันก็จะมีหลายๆพิมพ์ค่อยๆอวดโฉม และถูกพบเจอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเดี่ยวนี้อะไรมันก็เชื่อมต่อถึงกันได้หมด ขนาดพระสมเด็จของคนที่อยู่อเมริกาเรายังได้เห็นเลยจริงมั้ยครับ?
ในเมื่อเราเสาะหาเพราะความชอบ เป็นความสนุกท้าทายเหมือนค้นหาสมบัติ และมีการเช่าหาเปลี่ยนมือกันไม่ยากนัก หลักหมื่นถ้าพระฟอรืมแน่นๆ ก็ไม่ยากที่จะออกตัวกันละครับ โดยเฉพาะหลังๆพระพิมพ์เก่าๆไม่ค่อยได้เห็นกันมากแล้วคิดว่าเจอคนที่เค้าศึกษาอย่างจริงจังและมีกำลังทรัพย์ เก็บสะสมกันจะแทบไม่เหลือแล้ว น่าภูมิใจที่พระสมเด็จแบบนี้มีทั้งดอกเตอร์ ศาตราจารย์ นายแพทย์ นายพล ต่างก็มีไว้ในครอบครองอยุ่ไม่น้อย ยังไงก็ไม่เหงาหละครับสำหรับสายเล่นพระแนวนี้ อย่างที่เค้าเปรียบเทียบให้ฟังว่า อยากได้ปลาถูกก็ให้ไปจับเองครับ ให้คนอื่นจับก้ต้องเสียค่าเวลา เสียค่าแรงให้กับเค้าไปจริงมั้ย?
เอาละครับมาพูดถึงพระสมเด้จองค์นี้กันครับ ดูจากพิมพ์แล้วเป็นพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่แม่พิมพ์อกกระบอกพิมพ์หนึ่ง ที่ไม่ใช่ของหลวงวิจารณ์เจียรนัยอย่างแน่นอน แต่อาจเป็นแม่พิมพ์ก่อนหลวงท่านสร้าง เพราะเนื่องจากเนื้อหาที่ผสมเนื้อพระออกแนวนุ่มนวลกว่าของทางยุคหลัง องค์นี้ผสมปูนน้อยแทบจะเรียกว่าผงล้วนเลยทีเดียว เพราะช่วงยุคแรกๆ ตำราว่าจะเน้นผงพุทธคุณไม่อั้น ยุคหลังๆสัดส่วนการผสมจะมีปูนกับตังอิ้วเสริมเข้ามามาก ทำให้พระยุคแรกๆไม่ค่อยทน มีแตก ป่น หัก ตามกาลเวลาไปมาก โดยเฉพาะสมัยก่อนการสัญจรก็เป็นทางน้ำซะส่วนใหญ่ พระตกน้ำก็มีเป้นอันมาก ขนาดผมตอนเด็กใช้สร้อยสแตนเลส พระยังขาดหายอยุ่บ่อยๆ สมัยก่อนใช้เชือกหนัง เชือกปอมั่งไม่ขาดก็คงไม่ได้ ซ้ำบางคนห่อใส่ผ้า การอาราธนาติดตัวไปใช้ก็สุดแล้วแต่ละคนละครับ องคืนี้แต่แรกมีรักติดมาด้วยแต่ผมค่อยๆลอกออกครับ จุดไหนไม่กล้าเสียงก็เบามือ ดีนะผิวไม่เสียมาก แต่จากที่สังเกตุนะ พระสมเด็จมักจะลงรักด้านหน้าหนาๆไว้ด้านหลังอาจมีบ้างหรือไม่มีเลยเลยก็ได้ แล้วมีจุดสังเกตุอีกอย่างนึงของเส้นสายองค์พระจะขยุกขยิกไม่เหมือนกันนะครับ เพราะไม่ได้เกิดจากพิมพ์แต่เกิดจากการแกะพระออกจากพิมพ์ส่วนหนึ่ง กับการหดตัวของพระไม่เหมือนกัน จะเหมือนบางจุดแต่ไม่เหมือนหมดซะทีเดียวนะครับ ถ้าเหมือนหมดแสดงว่าต้องมีองค์ไหนที่เก๊ เฮ้ย...หรือเก๊ทั้ง2เลย 555+ ตรงส่วนของแม่พิมพ์จะเห็นว่าทำไมมีเส้นกรอบ2ชั้น ก็ง่ายๆครับ แม่พิมพ์ยุคแรกๆไม่ได้ปราณีตมากนัก เส้นที่เห็นเป็นเส้นกะขนาดครับ คร่าวๆ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ก็ถูกไปตีความกันเองว่าถอดพิมพ์มั่งละ ก็อย่างว่าถ้าคนทำก็ไม่รู้นี่ครับว่าลูกหลานในอนาคตจะมีกฎเกณฑ์ในความนิยมอย่างไร
*** พูดถึงความนิยมนี่ ตอนเด็กๆผู้ใหญที่สะสมพระก็มักชอบอวดพิมพ์แปลกๆ หรือมีขนาดใหญ่ๆ หรือทำจากวัตถุพิเศษ แบบ เนื้อชิน ทองคำ เงิน อะไรประมาณนี้
พระสมเด็จวัดระฆัง Somdej rakang |
พระสมเด็จวัดระฆัง Somdej rakang |
พระสมเด็จวัดระฆัง Somdej rakang |
พระสมเด็จวัดระฆัง Somdej rakang |
พระสมเด็จวัดระฆัง Somdej rakang |
มาดูเนื้อหามั่งครับ เนื้อแบบนี้คนเก่าๆเค้าบอกเนื้อปูนุ่ม หรือผงล้วนๆ มีความนุ่มหนึก สอดผสานกับพิมพ์พระทำให้ดูแล้วสบายตา สบายใจ ทำให้ผมมโนได้เลยที่เค้าเคยกล่าววิธีการทำผงพุทธคุณทั้ง5 ที่ว่าเขียนๆลบๆแล้วผสมกับน้ำว่านน้ำมนตืต่างๆแล้วปั้นเป็นแท่งๆไว้ เนื้อจึงได้เนียนละเอียดยิบปานนี้ แต่ถึงอย่างไรเวลาส่องเนื้อหาก็อย่าลืมส่องหามวลสารอื่นๆภาคบังคับด้วยนะครับ ยังไงก้ต้องมีเพียงแต่จะมีมากมีน้อย เช่นผงดำ ผงเทา ผงแดง ผงเขียว ทรายเงิน ทรายทอง เป็นต้น นะครับ ไว้โอกาสหน้าผมจะหารายละเอียดในส่วนนี้มาเล่าสู่กันฟังสไตล์กันเองในคราวต่อไปครับ ขอบคุณมากที่ติดตามครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)