วันพุธที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่18 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่18 somdej wat rakang amulet



สวัสดีครับทุกท่าน คราวนี้ผมนำสมเด็จมาให้ชมกันอีกองค์ครับ ความแปลกอยู่ที่พระองค์นี้เขย่าแล้วมีกริ่งอยู่ภายในด้วยครับ ไม่ธรรมดาใช่มั้ย พระแบบนี้มีทั้งแท้และมีทั้งปลอม ที่เค้าปลอมเพราะว่าเคยมีของแท้ครับ!! สมัยก่อนต้องนึกดูก่อนนะครับว่าพระสมเด็จพึ่งจะดังยุคหลังๆมานี่เอง สมัยก่อนพระชุดกิมตึ๋งยังดังกว่าครับ แล้วพระพวกนี้ก็มีมานานแล้วเท่าที่สืบความมาได้จากคนเก่าแกที่ยืนยันกันต่อมาว่ามี ก็เอาหน่าเราได้มาฟรีๆจะไปคิดไรมาก ตอนที่ผมพบเจอในหิ้งพระครั้งแรกก็รู้สึกตื่นเต้นครับ เหมือนได้เจอขุมสมบัติ มีใครมีอาการเหมือนผมมั่งมั้ย ที่ผมชอบเดินซื้อหาของเก่าก็เพราะเหมือนได้ไปดูสมบัติของคนอื่นด้วย มันทำให้ได้ความรู้และได้เปิดโลกทัศน์ให้มากขึ้น ผมว่าการดูพระให้เก๊ ง่ายกว่าการดูพระให้แท้นะครับ ผมจำพระสมเด็จระดับต้นของประเทศได้เกือบทั้งหมด แม้แต่เอาพระกลุ่มนี้มาเทียบกันเองก็ยังมีคุณสมบัติไม่ครบ ถ้ายึดตามเกณฑ์จริงๆในจำนวนนั้นจะหายไปกว่าครึ่ง ผมเองก้สงสัยเหมือนกัน อย่างบางทีแบบประมาณว่าพิมพ์เดียวกัน ผมนั่งมองตะแคงไปมา มันเหมือนกันตรงไหนว่ะ อ้าว...เหมือนก็เหมือน อย่างงี้ถ้าแท้ขายได้เป้นสิบล้านก้ต้องจำไว้ครับ เผื่อจะฟลุ๊ค เข้าเวทีไหนก็ต้องเคารพในเวทีนั้น จะเอาเกณฑ์แบบมวยวัดไปเทียบได้ไงครับ

ผมว่าอนาคตจะมีมหาเศรษฐีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาแล้วก็จะเอาพระสมเด็จที่ตนครอบครองมาอวด คราวนี้แหละจะมีพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ D E F G H ใครก็ไม่กล้าฮือครับ แท้ก็แท้เจ้านาย



ตรงส่วนนี้อยากให้ดูรอยแตกลายงาจากใหญ่ยิบย่อยแตกแขนงเป็นเส้นเล็ก เนื้อหาอย่างกับกระเบื้อง กระทบโต๊ะหินอ่อนดังกิ๊กๆ มีเศษทอง เศษรักติดอยู่ประปราย รักสีออกม่วงดำ



ตรงส่วนนี้ให้ดุรอยรักที่ทิ้งเอาไว้ แล้วก้ตรงรอยยุบตัว แบบค่อยๆเป็นค่อยไปครับ


ตรงส่วนนี้ ฐานจะหนากว่าปกติครับ ผมลืมบอกไปว่าองคืจริงหนาและใหญกว่าปกติเล็กน้อย 4/3 ของพระสมเด็จทั่วไปตามปกติครับ




ด้านหลังครับ ปาดเรียบงดงาม มีริ้วรอยปรากฎ มีคราบตังอิ้วผุดขึ้นเป็นกลุ่มๆ นี่ก็เป็นจุดที่ควรพิจารณาพลาดไม่ได้ครับ

วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่17 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่17 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อากาศหนาวกว่าเมื่อวานซะอีกนะ ขอให้เป็นอย่างนี้ไปตลอดหน้าหนาวเลยนะชอบๆ กินกาแฟหน้าบ้าน บรรยากาศดีจริงๆ

วันนี้นะครับผมนำพระสมเด็จมารให้ชมอีกองค์ ซึ่งพิมพ์นี้หาดูได้ยากในอดีตเคยลงในหนังสือพระลานโพธิ์ โชว์ไม่กี่ครั้งเป็นของเซียนพระสายสมเด็จท่านนึงครับ ความแปลกคือดูที่พระกรด้านขวามือเราครับ ถ้ามองดีดีคล้ายกับท่านั่งสมาธิของสมเด็จโตรึเปล่า? จากที่ผมเคยได้ศึกษาผ่านตามา ปกติแล้วการออกแบบแม่พิมพ์ส่วนมากจะแฝงปริศนาธรรมเอาไว้นะครับ โดยเฉพาะในยุคแรกๆของวัดระฆัง ที่ไม่นับช่วงทดลองทำพระใหม่ๆของสมเด็จโต ที่ยังไม่มีคนเป็นคนช่วยทำแม่พิมพ์ขึ้นมาให้

ในส่วนเส้นสายต่างๆ ก็ออกเป็นแนวของช่างคนเดียวกันที่แกะพระสมเด็จแนวนี้ ที่เป็นเส้นสายแบบนี้ เราดูพระไปเยอะๆ จะเห็นและแยกแยะฝีมือช่างผู้แกะพิมพ์ได้ครับ ที่แน่ๆไม่ใช่แม่พิมพ์หลวงวิจารย์ครับ

ในส่วนของเนื้อหามีความแห้งเก่าและผสมตังอิ้วพอดู (ในส่วนตังอิ้วผมว่าผู้แนะนำอาจไม่ใช่หลวงวิจารย์ก็ได้ครับ เค้ามีใช้กันมานานแล้ว แต่เพราะบางช่วงของต้องรอจากเมืองจีนส่งมาขาย สมัยนั้นเรายังทำไม่ได้ครับ บางครั้งจึงต้องลองหาวัสดุอย่างอื่นลองดูทดแทน เพื่อช่วยเป็นตัวประสาน) องค์นี้โดนล้างมาบ้างครับ เพื่อทดสอบความเก่าโดยเอาไปแช่น้ำร้อนเพื่อทดสอบฟองอากาศแบบคนสมัยก่อนชอบทำกันมา ทำให้ความงามจากผิวที่มีตังอิ้วปกคลุมหายไปด้วยบางส่วน อันความชอบคนคนไม่เหมือนกันนะครับ บางคนชอบแบบเนื้อขาวๆซีดๆแห้งๆ บางคนชอบฉ่ำๆ บางคนชอบหนึกๆ บางคนชอบกร่อนๆจัดจ้าน แต่ถ้าเราชอบอนุรักษ์แบบเดิมๆก็ปล่อยไว้ไม่ต้องล้างก็ดีแล้วครับ พระแบบนี้ต่อให้ล้างไปก็ไม่มีใครไปซื้อหรอกครับ50ล้าน หลักแสนอาจจะมีนะถ้าตาถึง แต่ถ้าองค์นี้ตกไปอยุ่ในมือคนมีชื่อเสียง แล้วเพิ่มมูลค่าโดยฉายหนังเก่าเล่าอดีตให้ฟัง เป็นล้านอาจจะมีคนยอมควักตรงความแปลกและมีอยู่ในตำนานจริงๆก็ได้


พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet

รูปนี้ผมทำลูกศรไว้ชี้จุดข้อสังเกตุ ที่พระสมเด็จเก่าๆควรมีครับ ซุ้มเซาะหดตัวม้วนเข้าไปข้างใน รอยนาคเกี๊ยวเลื้อยลงมา รอยปริ รอยยุบ ตัวต่างๆ


พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet

รูปนี้ให้ดูซอกแขนที่แกะลึกเทรดับมาทำให้เกิดพื้นผิวต่างระดับดูมีมิติ โค้ง อ่อนช้อย สวยงาม


พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet

รูปนี้ให้ดูฐานทั้ง3 สวยงามรับกับพระชงค์ขององค์พระ หัวฐานสิงห์สวยงามครับ


พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet
พระสมเด็จวัดระฆังองค์somdej wat rakang amulet





รูปนี้ให้ดูบรเิณด้านหลัง เป็นลักษณะปาดเรียบเก็บงาดเรียบร้อย มีรอยครืดของมวลศาล มีรอบปริแยกตามขอบ มีเม็ดมวลสารหลุดบ้าง


และนี่คือทั้งหมดของพระสมเด็จองค์นี้ครับ ก่อนจากกันคราวนี้อยากจะให้ทุกคนสะสมพระเครื่องอย่างสบายใจครับ ไม่ต้องเถียงกันไปมา เราสะสมเราเช่าหาเราได้มาจากคนที่รักเรา เท่านั้นพอครับ อย่าไปเถียงกันมาก ถึงชนะไปพระพวกคุณก็ขายไม่ได้50ล้าน หรือให้เอาพระของตนที่ว่าแน่ แล้วยืนคนละฝั่งจ่อหัวแล้วยิงคนละนัดสุดท้ายก็ตายอยู่ดีครับ ในสังคมเรานี้บางทีก็แปลกที่ต้องทะเลาะกันในสิ่งที่มโน และยอมตายเพื่อศักดิ์ศรีที่ปกป้องในสิ่งที่ไม่เคยมีจริง...
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะครับ ไว้พบกันคราวต่อไป

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่16 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่16 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง





สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เอาพระสมเด็จวัดระฆังอีกแบบหนึ่งให้ชมครับ อย่างที่บอกครับเรื่องราคาไม่ใช่สิ่งที่กำหนดให้พระองค์นั้นแท้หรือเก๊เสมอไปครับ เราเป็นนักสะสมกึ่งแนวของเก่าแบบนี้ก็สนุกดีครับ เหมือนได้ค้นคว้าทำวิทยานิพนต์แบบนักศึกษา ดีไม่ดีบางท่านนี่หากวัดความรู้ออกมาอาจเป็นได้ถึงระดับดอกเตอร์ทางสายนี้ก็เป็นได้นะครับ ไม่รู้ซินะพอศึกษาไปมากๆ (ผมห่างหายการหาข้อมูลมาประมาณ3ปีเพราะมัวแต่ไปสะสมของเล่นเก่าๆสมัยเด็ก) พอกลับมาใหม่ได้ค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม บางหนังสือที่เค้าสแกนมาลงในเว็บก็เป้นหนังสือเก่าที่พิมพ์มานานแล้วเป้นตัวอ้างอิงได้ในระดับนึง ซึ่งทำให้ผมรู้สึกว่าพิมพ์ประสมเด็จวัดระฆังที่แท้จริงจะเป็นแนวโปร่ง สง่า บ้างมีล่ำสัน แต่เส้นสายประมาณนี้นะ ส่วนที่พิมพ์สวยๆผมเกรงว่าจะเป็นพระยุคปลายหรือไปทางพิมพ์ที่ฝังกรุบางขุนพรหมซะด้วยซ้ำไป แต่อย่างไรเสียขอให้ทันท่านปลุกเสกก้น่าจะเพียงพออยู่แล้วครับ พระทุกองค์ล้วนมีเจ้าของพอถึงเวลานึงก็จะต้องเปลี่ยนที่ไปครับ เป็นอนิจจัง


















พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง




ตรงส่วนนี้จะสังเกตุพื้นผิวที่แห้งสนิดของพระที่ไม่เคยถูกใช้สัมผัสมา เส้นสายคมชัดสวยงาม เนื้อหาน่าส่อง เนื้อแบบนี้แหละครับที่ชวนดูมีเสน่ห์น่าหลงไหล ดูเงางามเป็นธรรมชาติ  ส่วนของเก๊ที่ขัดเงาจะเป็นอีกแบบนึงครับถ้าได้ส่องจะเห็นความแตกต่าง ว่าเงาจุ่มน้ำมันเช็ดเหงื่อกับเงาเพราะผิวที่ตังอิ้วระเหยอกมาเคลือบผิวเป็นยังไง

พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง




ตรงจุดลูกศรแดง เป็นจุดที่ตังอิ๊งระเหยขึ้นมามากจนจับตัวเป็นกลุ่มสีเข้มข้นชัดเจน ผมส่องแล้วเห็นยางแข็งสีน้ำตาลปูดซึมขึ้นมา


พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง


ตรงจุดที่มีลูกศร ให้ดูลายเส้นที่อ่อนช้อย ที่เห้นขยุกขยิกนั้นไม่ใช่เกิดจากพิมพ์นะครับ แต่เป้นการหดตัวหลังจากที่ความชื้นระเหยออกไป ผิวเลยร่นล่มลงไป เลยแลดูขยุกขยิกครับ









พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง




หลุบยุบที่ลูกศรชี้ ปากรูจะแคบกว่าหลุมที่อยุ่ข้างในครับ หลักการนี้เอาไปใช้ดูพระเนื้อดินได้ครับ ตอนแรกผมคิดว่าเป้นแมลงกัดครับ แต่พอส่องดูดีดีๆมันเป้นการยุบตัวครับ เดี๋ยวจะให้เห็นตรงจุดที่เหมือนกับการวิวัฒนาการก่อนที่จะเกิดเจ้าหลุมนี้ขึ้นครับ


พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง

เห็นพื้นที่ที่ลูกศรชี้ตรงด้านซ้ายของพระพักต์หรือไม่ เห้นมั้ยครับรอยที่กำลังจะยุบตัวลงไป โอ้ว..เห็นลูกศรสีแดงที่ชี้ตรงบริเวณคางหรือไม่ นี่ก็เป็นจุดธรรมชาติอย่างนึงที่ใช้พิจารณาพระสมเด็จด้วยเช่นกันครับ อาจารย์ทั้งหลายเคยบอกว่าอยากได้พระสมเด็จเงินล้านหมั่นจำพิมพ์ อยากได้พระสมเด็จถูกหมั่นจำเนื้อหาและธรรมชาติครับ





พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง


ส่วนนี้ตรงบริเวณฐานครับแกะได้โค้งตวัดสวยงามดูอ่อนช้อยนุ่มนวลตาครับ


พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง

พระสมเด็จวัดระฆัง
พระสมเด็จวัดระฆัง




ส่วนนี้ด้านหลังครับ คราบตังอิ้วที่เริ่มก่อเป็นสนิมพระน้อยๆ แล้วให้ดูตรงรอยปาดด้านหลังเรียบร้อยเนียน มีร่องรอยของการครูดไถลขอวัสดุยามโดยปาดลากไปตามพื้นผิวครับ


วันนี้ขอจบการคุยเฟื่องเรื่องพระของผมเพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ขอบคุณที่ติดตามแล้วพบกันใหม่ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่15 somdej wat rakang amulet

พระสมเด็จวัดระฆังองค์ที่15 somdej wat rakang amulet

somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet

somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet




 สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมเอาพระสมเด็จวัดระฆังมาให้ชมกันอีกแล้วครับ องค์นี้ผมชอบมากเลยนะ เป็นพิมพ์ที่เค้าตัดกรอบเผื่อไว้เล็กน้อยเพื่อหุ้มขอบด้วยแผ่นเงินเอาไว้อาราธนาติดตัวไปไหนได้สะดวก เพราะสมัยก่อนยังไม่มีตลับพระครับ นับว่าทันสมัยเลยทีเดียวนะสมัยนั้น พระลักษณะแบบนี้คนเก่าคนแก่เรียกกันติดปากว่าพิมพ์กรอบกระจก จะเห็นพิมพ์สวยเอาการอยู่ทีเดียว และดูเนื้อหามวลสารจัดจ้านมีของดีดี ที่เป็นวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์มากมาย แสดงว่าเจ้าของพระคนแรกต้องไม่ธรรมดาครับ ถ้าไม่สนิทชิดเชื้อกับทางวัดระฆังจริงๆคงไม่มีทาง ผมนั่งส่องๆดูมีมวลสารหลากหลายชนิดมากและครบสูตรที่ต้องมีของวัดระฆังด้วย แล้วผมก็ยังไม่เคยเห็นพระเหมือนองค์นี้เป็นองค์ที่2!!! จึงมั่นใจในความแท้ส่วนตัว พระองค์นี้ปกติจะไม่ร้อนทั้งๆที่อุณหภูมิห้องมันร้อน แต่เวลาอยุ่ห้องแอร์กลับเก็บความเย้นไว้นานพอสมควร ดมกลิ่นแล้วคล้ายกลิ่นน้ำฝนอับๆครับ

somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet




ถ่ายซูมองค์พระด้านหน้าครับ จะเห็นผิวบางกึ่งใสออกเป็นเยื่อเป็นพระใช้จัดมา พระพักต์รียาว ปลายพระเกศเรียวสะบัด หัวไหล่ด้านขวามือเรายกขึ้นเล็กน้อย ซุ้มโค้งรับกันทางด้านซ้ายมือสูงและทำมุมเข้าหาพระเกศมากกว่าทางด้านขวามือเล็กน้อย

somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet




ต่อมาครับ พื้นที่ภายในซุ้มเทลาเข้าหาองค์พระเล็กน้อย ติดพระศอรำไร ซอกแขนด้านขวามือเราลึกชัดเจน การวาดวงแขนดูสง่าแต่นุ่มนวลสบายตา มีรอยแคร็กแยกเล็กน้อยตรงพื้นที่องค์พระด้านขวาตรงส่วนที่มีมวลสารที่แตกต่างตรงบริเวณนั้น



somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet



ตรงส่วนฐานทั้งสาม แกะได้ขนาดสวยงาม เว้นช่องไฟได้ถูกต้องสอดรับประสานกันกับพระชงค์ขององค์พระอย่างงดงาม จะแลเห็นชายจีวรที่เชื่อมต่อโค้งลงมาเล็กน้อย


somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet




มวลสารขาวขุ่นแต่โปร่งแสงที่เค้าว่าเป็นทีเด็ดของพระสมเด็จครับ ปกติจะอันไม่ใหญ่เท่านี้ องคืนี้ได้ดีจริงๆแถมเสริมตรงฐานพอดี


somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet


somdej wat rakang amulet
somdej wat rakang amulet




ด้านนี้ถ่ายจากข้างหลังครับ เป็นแบบหลังเรียบแบนทื่อๆ ปาดเก้บเรียบร้อยอย่างดี เนื้อแลคล้ายหินอ่อน มีรอยช้ำผ่านการใช้เป้นจุดๆจ้ำเสริมเสน่ห์ ใครได้ส่องอร่อยตาไม่รู้ลืมเลยหละครับ







รูปนี้ถ่ายผ่านกล้องจุลทัศน์ครับสีเพี้ยนไปหน่อย แต่พอใช้ได้ จะเห็นว่าผิวที่ชัดเจน ที่เห็นเส้นดำๆนั่นอาจจะเป็นพระเกศา (เส้นพระเจ้าครับ) เป็นเส้นผมของเบื้องสูง หรือของสมเด็จโตเองอันนี้ก็สุดแท้จะคาดเดา



ขอบคุณทุกท่านมากครับที่ติดตาม